แอลพีจีเอ หวนแข่งมาเลเซียรอบ 6 ปี เมย์แบงค์ แชมเปี้ยนชิพ ชิงกว่า 102 ล้าน

แอลพีจีเอ หวนแข่งมาเลเซียรอบ 6 ปี เมย์แบงค์ แชมเปี้ยนชิพ ชิงกว่า 102 ล้าน

แอลพีจีเอ ประกาศจัดการแข่งขันในประเทศมาเลเซียอีกครั้งในรอบ 6 ปี การแข่งขัน เมย์แบงค์ แชมเปี้ยนชิพ ที่กัวลาลัมเปอร์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ปลายเดือนตุลาคมนี้ นักกอล์ฟเข้าร่วมแข่งขัน 78 คน แบบไม่ตัดตัว ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 102 ล้านบาท มากที่สุดในรายการที่ไม่ใช่รายการเมเจอร์แอลพีจีเอ ทัวร์ ปี 2023

แอลพีจีเอ และเมย์แบงค์ หนึ่งในธนาคารชั้นนำของเอเชีย และใหญ่อันดับ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ประกาศจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรีในประเทศมาเลเซีย รายการ “เมย์แบงค์ แชมเปี้ยนชิพ” ที่สนาม กัวลาลัมเปอร์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 26-29 ตุลาคม 2566 ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 102 ล้านบาท นับเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่มีเงินรางวัลมากที่สุดที่ไม่ใช่รายการเมเจอร์ ในโปรแกรมแอลพีจีเอ ทัวร์ ปี 2023

การแข่งรายการนี้ จะแข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 72 หลุม แบบไม่มีการตัดตัว นักกอล์ฟเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 78 คน นับเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ที่แอลพีจีเอ ทัวร์ จัดการแข่งขันในประเทศมาเลเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้จัดการแข่งขันรายการไซม์ดาร์บี แอลพีจีเอ มาเลเซีย ช่วงปี 2010-2017 ที่สนามเดียวกันนี้

Advertisement

สำหรับนักกอล์ฟที่เคยไปคว้าแชมป์แอลพีจีเอในประเทศมาเลเซีย ที่ผ่านมา ได้แก่ คัง จีมิน (เกาหลีใต้) ปี 2010 ชเว นา-ยอน (เกาหลีใต้) ปี 2011 พัค อินบี (เกาหลีใต้) ปี 2012 เล็กซี ธอมพ์สัน (สหรัฐ) ปี 2013 ฝง ซานซาน (จีน) ปี 2014 และ 2016 เจสซิกา คอร์ดา (สหรัฐ) ปี 2015 และ คริสตี เคอร์ (สหรัฐ) ปี 2017 ส่วนนักกอล์ฟไทยสถิติดีที่สุดคือ พรอนงค์ เพชรล้ำ คว้าอันดับ 2 เมื่อปี 2014

มอลลี มาร์คูซ์ ซามาน์ ประธานบริหารแอลพีจีเอ ทัวร์ เปิดเผยว่า แอลพีจีเอ ตื่นเต้นที่จะนำเอากอล์ฟอาชีพสตรีกลับไปแข่งขันที่มาเลเซียอีกครั้งในรอบ 6 ปี ต้องขอขอบคุณเมย์แบงค์ ที่ให้การสนับสนุน โดยที่แอลพีจีเอ และ เมย์แบงค์ ได้ร่วมกันยกระดับการแข่งขันของสตรีในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ เมย์แบงค์ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ให้ความสำคัญต่อสตรี และนักกีฬาของเรา ด้วยเงินรางวัลรวมมากที่สุดในรายการในเอเชีย

ดาโต๊ะ ไครุสซาเลห์ รามลี ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเมย์แบงค์ กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมารายการเมย์แบงค์ แชมเปี้ยนชิพ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการยกระดับอาเซียนสู่เวทีโลกในเชิงกีฬา ปัจจุบันเราได้มองถึงการวิวัฒนาการของการแข่งขันให้เป็นกีฬาของภูมิภาคนี้ การที่แอลพีจีเอได้ร่วมมือกับเรา และเราภูมิใจที่ได้ยืนอยู่เคียงข้างกับองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ที่ช่วยให้เกมกอล์ฟหญิงเติบโต และแสดงถึงความเท่าเทียมกันในเรื่องโอกาสของเด็กผู้หญิง และสตรีทุกวัย

Advertisement

ด้าน เคลลี ตัน นักกอล์ฟสาวหนึ่งเดียวจากมาเลเซียที่เป็นสมาชิกแอลพีจีเอ ทัวร์ ในปัจจุบัน และยังเป็นบอร์ดบริหารตัวแทนผู้เล่นแอลพีจีเอ ทัวร์ กล่าวว่า ในฐานะนักกอล์ฟ มีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของประเทศมาเลเซียไปแข่งขันทั่วโลก ยิ่งตื่นเต้นที่แอลพีจีเอ ทัวร์ จะกลับไปแข่งขันที่กัวลาลัมเปอร์อีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ และเชื่อว่าเมย์แบงค์ได้เข้ามาเป็นพันธมิตรกับแอลพีจีเอ ทำให้เพิ่มโอกาสในการประชาสัมพันธ์ และพัฒนาเกมกอล์ฟในมาเลเซียมากยิ่งขึ้น และรู้สึกตื่นเต้นกับแฟนกอล์ฟในประเทศของตัวเองที่จะมีโอกาสได้ชมการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมของนักกอล์ฟอาชีพหญิงที่ดีที่สุดในโลกอย่างใกล้ชิด

สำหรับสนามกัวลาลัมเปอร์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ เคยจัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพระดับนานาชาติมาแล้วหลายรายการรวมทั้งซีไอเอ็มบี คลาสสิก รายการร่วมของเอเชี่ยน ทัวร์ และพีจีเอ ทัวร์ ช่วงปี 2013-2018 โดยแข่งขันที่เวสต์ คอร์ส และยังมีรายการเมย์แบงค์ มาเลเซียน โอเพ่น รายการร่วมของเอเชี่ยน ทัวร์ และยูโรเปี้ยน ทัวร์ (ปัจจุบันคือดีพี เวิลด์ ทัวร์) ช่วงปี 2010-2015

จากกรณีแอลพีจีเอ ทัวร์ กลับไปแข่งขันที่ประเทศมาเลเซีย อีกครั้งทำให้ในอาเซียน จะมีรายการแอลพีจีเอ 3 รายการในปีนี้ ได้แก่ รายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ที่ประเทศไทย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และเอชเอสบีซี วีเมนส์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อต้นเดือนมีนาคม และเมย์แบงค์ แชมเปี้ยนชิพ ที่จะจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 26-29 ตุลาคม 2566 ที่จะถึงนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image