เชลซี ยิ่งเล่นยิ่งเข้าสเปก ก่อนหน้านี้สอบผ่านด้านการเป็นเจ้าเกมรุก บุกเร็ว เฉียบขาด ล่าสุดที่ชนะเวสต์บรอม 1-0 สิงห์น้ำเงินกลายเป็นทีมที่เล่นเอา 3 แต้ม ในวันที่ฟอร์มแย่ได้แล้ว
ผ่านไป 70 กว่านาที เชลซีทำอะไรเวสต์บรอมไม่ได้เลย เอเด็น อาซาร์ กับ เปโดร เล่นไม่ออก ทีมเยือนมาเน้นตั้งรับ และรับเหนียวหนึบ แทบจะเล่นระบบ 10-1 ทิ้งกองหน้า ซาโลมอน รอนดอน ไว้คนเดียว ที่เหลือถอยมาอุด ปิดพื้นที่จนเจ้าบ้านทั้งหงุดหงิด ทั้งอึดอัด
เชลซีไม่ชนะแน่ๆ ถ้าไม่มี ดีเอโก้ คอสต้า
คอสต้าเกมนี้เล่นลำบาก แต่ครั้งเดียวที่เขาชิงเหลี่ยมเบียดเอาชนะ แกเร็ธ แม็คออลีย์ เซ็นเตอร์เวสต์บรอมไปได้ ก็จัดการสังหารประตูชัยให้ทีมทันที
โอกาสหนเดียวเปลี่่ยนเป็น 3 แต้ม ดีเอโก้ คอสต้า ทำได้จากความคม ความแข็งแกร่งของตัวเองเนื้อๆ เป็นโซโลโกล์ที่รับไปคนเดียวเต็มๆ
กองหน้าอย่างคอสต้า รู้กันอยู่ว่าเป็นพวกสุดขั้ว มีข้อดีที่ทำให้ทีมชนะได้ แต่ข้อเสียก็ทำทีมพังได้เหมือนกัน เรื่องความเฉียบขาดไม่มีใครเถียง แต่ความขี้โมโห ชอบมีเรื่อง โดนใบเหลือง ใบแดงบ่อยๆ คือ จุดที่มาหักลบความดีอยู่เป็นประจำ
แต่ตอนนี้คอสต้าเปลี่ยนไป ใจเย็นขึ้น ไม่โดนใบเหลืองมา 10 นัดติด!
พอควบคุมตัวเองได้ ผลงานก็เปล่งประกาย ยิงไปแล้ว 12 ประตู เท่ากับที่ยิงเมื่อปีก่อนทั้งฤดูกาล
แม้แต่คนที่ไม่ชอบหน้าคอสต้า ยังต้องยอมรับว่า หมอนี่คือหัวหอกเบอร์หนึ่งของพรีเมียร์ลีกในนาทีนี้ เทียบกับบรรดากองหน้าตัวเป้าด้วยกัน ถือว่าดีกว่า มีอิทธิพลต่อทีมมากกว่า กุน อากูเอโร่ และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
ถ้าคอสต้าดูแลตัวเองสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยให้ ด้านมืด เข้าแทรกก็มีสิทธิพาเชลซีเป็นแชมป์ได้
เรื่องนี้คงมีคนแย้งว่าพฤติกรรมมนุษย์ปรับได้ แต่นิสัยเปลี่ยนไม่ได้ ฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกล แถมเป็นปีที่ เดาทางยาก ทีมเก่งกลายเป็นไม่เก่งชั่วข้ามคืน
แต่เชลซี ยิ่งเล่น ยิ่งหล่อ ตั้งแต่จัดทีมลงตัวก็ก้าวไปข้างหน้าลูกเดียว
ขอแค่ ดีเอโก้ คอสต้า อย่าสะดุดขาตัวเองเท่านั้นแหละ
