เชลซี แชมป์เก่าศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกือบเอาตัวไม่รอด หลังไล่ตีเสมอเอฟเวอร์ตัน ในถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์ของตัวเองแบบหืดจับ 3-3 ในช่วงเลยการทดเวลาบาดเจ็บไปแล้วกับเกมลีกนัดที่ 22 เมื่อวันที่ 16 มกราคม
โดยทีม “สิงห์บลู” ตกเป็นฝ่ายตามหลังตลอด เริ่มด้วยการที่จอห์น เทอร์รี่ กองหลังกัปตันทีมสกัดบอลเข้าประตูตัวเองช่วงต้นครึ่งหลัง ก่อนเควิน มิรัลลาส จะทำประตูให้ทีม “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” นำห่าง 2-0 ในนาที 56 แต่เชลซีเอาคืนทีเดียว 2 ลูกรวดจากดีเอโก้ คอสต้า นาที 64 ก่อนจะโดนเปลี่ยนออกจากสนามอีก 16 นาทีต่อมา เนื่องจากเจ็บหน้าแข้ง จนถึงขนาดต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงทันที
จอห์น เทอร์รี่ (ภาพเอเอฟพี)
ตามด้วยประตูของเชสก์ ฟาเบรกาส ในนาที 66 จนเกมเสมอกัน 2-2 แม้รามิโร่ ฟูเนส โมริ แนวรับตัวสำรองจะลงมายิงประตูให้ทีมเยือนนำ 3-2 ในนาทีสุดท้ายพอดี แต่ยังดีที่เทอร์รี่แก้ตัวด้วยการตอกลูกส้นตีเสมอ 3-3 ในช่วงเลยการทดเวลา 7 นาทีมาแล้ว แม้จังหวะดังกล่าวจะเป็นลูกล้ำหน้าของเจ้าตัวก็ตาม
จากผลเสมอครั้งนี้ ทำให้ทีมสิงห์บลูยังไม่แพ้ใครนับตั้งแต่ปลดโจเซ่ มูรินโญ่ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเป็นเกมที่ 7 ติดต่อกันจากทุกรายการมี 25 คะแนนจาก 22 นัด น้อยกว่าเอฟเวอร์ตันแค่ 4 แต้ม
เซร์คิโอ้ “กุน” อากูเอโร่ (ภาพเอเอฟพี)
ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านถล่มคริสตัล พาเลซ 4-0 จากฟาเบียน เดล์ฟ นาที 22, เซร์คิโอ้ “กุน” อากูเอโร่ นาที 41, 68 และดาบิด ซิลบา นาที 84 ส่งผลให้ทีม “เรือใบสีฟ้า” มี 43 คะแนนจาก 22 นัด ขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ชั่วคราว และตาม “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งทำได้แค่บุกเสมอทีมอันดับสุดท้ายของตารางอย่างแอสตัน วิลล่า 1-1 ขึ้นนำจ่าฝูงชั่วคราวจากการเตะเท่ากันแค่แต้มเดียว
เจมี่ วาร์ดี้ (กลาง / ภาพเอเอฟพี)
ด้านอาร์เซน่อลที่รั้งอันดับ 1 ก่อนสุดสัปดาห์นี้ และมีโปรแกรมลงเล่นเกมที่ 22 ด้วยการไปเยือนสโต๊ก ซิตี้ วันรุ่งขึ้นที่ 17 มกราคม หล่นมาอยู่ที่ 3 มี 43 คะแนนเท่าแมนฯ ซิตี้ แต่ผลต่างประตูได้เสียน้อยกว่า
ผลคู่อื่น
สเปอร์ส ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 4-1
นิวคาสเซิล ชนะ เวสต์แฮม 2-1
เซาแธมป์ตัน ชนะ เวสต์บรอมวิช 3-0
บอร์นมัธ ชนะ นอริช ซิตี้ 3-0