เสธ.โต จวกอย่าอ้างเปลี่ยนรัฐบาล ยกเลิกจัดเอเชี่ยนอินดอร์ ชี้เสียหายหนัก
จากการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) โดยมี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานกรรมการ บอร์ด กกท. มีมติจะขอยกเลิกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยน อินดอร์ แอนด์ มาเชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งกำหนดจัดในเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่กรุงเทพฯ กับ จ.ชลบุรี นั้น
“เสธ.โต” พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่าประเทศไทยจะขอเลื่อนการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ซึ่งจะแข่งขันในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ออกไปโดยเลยเวลาอีกเพียงแค่ 5 เดือนเท่านั้นว่า เรื่องนี้เสียชื่อประเทศชาติในความคิดเห็นของตนเอง ทำไมปล่อยเวลาให้ล่วงเลยนานมาแล้วไม่ทำงานกัน พอเวลาใกล้จะทำไม่ทันหาเรื่องเลิก
พล.ร.อ.สุรวุฒิ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยเคยเป็นเจ้าภาพมหกรรมเกมแข่งขันระดับนานาชาติมากว่า 10 ครั้ง และมหกรรมกีฬาใหญ่กว่านี้ก็เยอะแยะไม่เคยที่จะผิดพลาด หรือจนจัดไม่ได้ไม่ว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนหรือไม่ ซึ่งในเมื่อครั้งที่กีฬาซีเกมส์ ที่จะจัดขึ้นที่ จ.นครราชสีมา ก็ยังจัดได้ไม่มีปัญหา และประสบความสำเร็จผ่านพ้นไปด้วยดี การที่จะเลื่อน หรือยกเลิกต้องคิดให้ดี ชื่อเสียงของประเทศไทยเป็นของทุกคน แล้วก็ไม่ใช่ของรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง ไม่ใช่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง เพราะเราทำสัญญาเอ็มโอยูไว้ชัดเจน ซึ่งเราก็เลื่อนมา 2 ปีแล้วจากสถานการณ์โควิด-19 ไม่มีเหตุผลอะไรตอนนี้ที่จะบอกยกเลิกการแข่งขัน เพียงแต่ว่าที่แน่ๆ คนทำงานมีประสิทธิ ภาพไม่พอ เลยทำให้เกิดความเสียหายขึ้นได้
“ทางออกตอนนี้ต้องจัดกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ให้ได้ตามกำหนดวันเวลาเดิมที่ตั้งเอาไว้ ซึ้งต้องเริ่มทำกันวันนี้อย่างจริงจังทำได้แน่นอน ทุกคนต้องจริงจังร่วมกันจัดเกมนี้ขึ้น เงินไม่ใช่ปัญหา ผมคิดว่าควรจะใช้ความพยายามในการแก้ปัญหามากกว่า ถ้าจัดรายการนี้ไม่ได้การเป็นเจ้าจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไปในอีก 2 ปีข้างหน้า ความเชื่อถือของคนกีฬาในระดับเอเชีย และอาเซียนจะมองประเทศไทยอย่างไร”
เสธ.โตกล่าวเพิ่มเติมว่า อย่าอ้างเรื่องการเปลี่ยนถ่ายรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติที่ทุกรัฐบาลจะต้องเข้ามาดำเนินการสิ่งที่ไทยได้ทำเอาไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมา เนื่องจากมีข้อตกลงมีสัญญากันไว้อยู่แล้ว หากกรณีเลิกใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของค่าปรับ เพราะต้องหาคนรับผิดชอบเนื่องจากเป็นเงินหลวง
“ผมขอย้ำว่าจะมาอ้างเปลี่ยนถ่ายรัฐบาลแล้วจัดไม่ได้เด็ดขาด ขอให้ทุกคนคิดถึงผลเสียที่จะเกิดจากการยกเลิกครั้งนี้เป็นเรื่องสำคัญด้วย และที่สำคัญการยกเลิกจัดการแข่งขันก็ต้องรอมติจากคณะรัฐมนตรีรัฐบาลชุดใหม่ที่มีอำนาจในทางกฎหมาย ไม่ใช่การประชุมจากเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา” เสธ.โตกล่าวปิดท้าย
