ปัจจุบันการวิ่งถือเป็นเทรนด์ที่คนทั่วโลกนิยมกันอย่างมาก แต่ละสัปดาห์จะมีรายการวิ่งตั้งแต่ระดับฟันรันยาวไปจนถึงอัลตรามาราธอนให้ปอดเหล็กทั้งหลายได้ไปสนุกกัน ช่วยทั้งเรื่องการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับผู้ไปร่วมกิจกรรม และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวสำหรับรายการที่เป็นที่นิยม เพราะจะมีนักวิ่งจากทั่วโลกที่จะเดินทางมาล่าเงินรางวัลและเกียรติยศ
สำหรับประเทศไทยเอง เพิ่งมีมาราธอนรายการใหญ่เกิดขึ้นมา ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในแต่ละปีก็จะมีการจัดงานวิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาอยู่เสมอ แต่สำหรับความน่าสนใจในรายการน้องใหม่แต่ใจไม่เล็กรายการนี้ เริ่มตั้งแต่ชื่อ “บุรีรัมย์ มาราธอน”
เนวิน ชิดชอบ ประธานบริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีว่าเป็นประธานสโมสรฟุตบอล “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย และทีมที่กำลังเติบโตในเวทีฟุตบอลสโมสรเอเชีย เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดที่จะจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่ดึงดูดนักวิ่งปอดเหล็กระดับโลกให้มาเมืองไทยให้ได้ ซึ่งใช้แนวคิดเดียวกับการสร้างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รวมทั้งสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ประสบความสำเร็จในนิยามว่า “เวิลด์ สแตนดาร์ด” หรือ “มาตรฐานระดับโลก” นั่นเอง
“แนวคิดที่ผมสร้างทีมฟุตบอลก็เพื่ออยากให้มีนักเตะไทยได้ไปเล่นในรายการระดับเอเชีย เหมือนกับการสร้างช้าง เซอร์กิต ก็อยากให้มีสนามแข่งขันรถที่ได้มาตรฐานที่จัดโมโต จีพีและเอฟวันได้ นักซิ่งไทยต้องได้แชมป์เอเชีย เมื่อทั้งสองอย่างประสบความสำเร็จได้ บุรีรัมย์ มาราธอนก็จัดขึ้นมาเพื่อสร้างนักวิ่งไทยให้ได้แข่งขันในรายการระดับโลกในอนาคต ผมเชื่อว่าจะเติบโตได้เป็นหนึ่งในรายการวิ่งระดับเมเจอร์ของโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า” บิ๊กเนกล่าว
เป้าหมายของรายการนี้นอกจากการสร้างนักวิ่งไทยให้ก้าวสู่ระดับโลกให้ได้แล้ว ยังต้องการยกระดับตัวเองให้มีความยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับบอสตัน มาราธอน ที่สหรัฐอเมริกา โตเกียว มาราธอน ที่ญี่ปุ่น หรืออีกหลายๆ รายการที่เป็นรายการระดับเมเจอร์ที่นักวิ่งระดับโลกต้องไปแข่งขันกันทุกปี การประเดิมปีแรก เริ่มต้นด้วยการได้รับการรับรองจากสหพันธ์กรีฑาแห่งเอเชีย ก่อนมีแผนผลักดันให้บรรจุเข้าอยู่ในโปรแกรมการแข่งขันระดับโลก ด้วยการทำให้ผ่านการรับรองจากสหพันธ์กรีฑานานาชาติ ในระดับบรอนซ์เลเบล ในอนาคต
บุรีรัมย์ มาราธอนแข่งขันในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ จ.บุรีรัมย์ ออกสตาร์ตจากสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต วิ่งผ่านสันเขื่อนห้วยจระเข้มากซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ, สนามฟุตบอล ไอ-โมบาย สเตเดียม, พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช บ้านเรือนและร้านค้ากลางเมือง, วัดกลางพระอารามหลวง, สวนสาธารณะ และศาลากลางจังหวัด ซึ่งเส้นชัยเป้าหมายจะอยู่ที่ บุรีรัมย์ คาสเซิ่ล นับเป็นการเชื่อมโยงอารยธรรมทั้งยุคใหม่ และยุคเก่าของ จ.บุรีรัมย์ นั่นเอง
“สนามแข่งรถระดับโลกใช้เงินสร้างมหาศาล คงไม่มีสนามไหนที่จะให้คุณได้ไปวิ่งในสนามแน่นอน แต่บุรีรัมย์ มาราธอน ให้คุณได้ไปวิ่งในสนามแข่งรถช้าง เซอร์กิตตั้งแต่สตาร์ตกันเลย” เนวินกล่าว
การดึงดูดนักวิ่งของมาราธอนแดนอีสานไม่ใช่แค่การจัดการที่เป็นเวิลด์ สแตนดาร์ด แต่มีเงินรางวัลให้ชิงชัยกัน 6,130,500 บาท ถือเป็นรายการวิ่งที่ชิงเงินรางวัลสูงที่สุดในประเทศไทย แบ่งเป็น รางวัลทำลายสถิติโลก 3.6 ล้านบาท ทำเวลาได้เร็วกว่า 2.2.57 ชั่วโมง ทำไว้โดย เดนนิส คิพรูโต คิเมตโต้ ชาวเคนยา ที่ประเทศเยอรมนี เมื่อ พ.ศ.2557 รางวัลทำลายสถิติประเทศไทย 1 ล้านบาท สำหรับผู้ที่วิ่งเร็วกว่าสถิติประเทศไทยด้วย เวลาเร็วกว่า 2.19.33 ชั่วโมง ที่ทำไว้โดย จิรัฐติกาล บุญมา ที่ลำพูน เมื่อ พ.ศ.2538 รางวัลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำหรับนักวิ่งจากภาคเหนือ, ภาคกลาง และภาคใต้ ที่สามารถชนะการแข่งขัน 10 อันดับแรกในระยะมาราธอน ทั้งประเภทชาย และหญิง ไม่จำกัดรุ่นอายุ รวมทั้งสิ้น 20 รางวัล รางวัลละ 5,000 บาท และรางวัลสำหรับนักวิ่งทั้งประเภททั่วไป
เนวินยังบอกอีกว่า เพราะสโลแกนที่ยึดถือมาตลอดว่า “เล็กๆ บุรีรัมย์ไม่ ใหญ่ๆ บุรีรัมย์ทำ” ทำให้ต้องสร้างความพิเศษให้กับงานนี้ด้วยการร่วมมือกับสถานทูตเคนยาประจำประเทศไทย ให้ดึงนักวิ่งระดับโลกของประเทศตัวเองมาร่วมแข่งขัน โดยเฉพาะเจ้าของแชมป์โลกคนปัจจุบันที่จะมาลุ้นทำลายสถิติตัวเองเพื่อเงินรางวัล 3.6 ล้านบาท
“ผมว่าถ้าคนไทยแข่งกับคนไทยแรงจูงใจคงไม่มากพอ ก็เลยต้องมีรางวัลให้คนทำลายสถิติโลกด้วย และต้องมีนักวิ่งเจ๋งๆ มาร่วมวิ่งจำนวนมาก เพื่อจะสร้างแรงบันดาลใจให้นักวิ่งไทย ได้เห็นเทคนิค วิธีการของนักวิ่งเก่งๆ เพื่อจะได้พัฒนาตัวเอง ไปติดท็อป 100 ของโลกในอนาคตให้ได้” บิ๊กเนทิ้งท้าย
สำหรับผู้ที่เข้าเส้นชัยในทุกระยะตั้งแต่ฟันรัน 5.5 กม. มินิมาราธอน 10 กม. ฮาล์ฟ มาราธอน 21.1 กม. และมาราธอน 42.195 กม. สามารถลงทะเบียนรับบัตรเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2016 นัดเปิดสนามของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ฟรี ในช่วงเย็นของวันที่แข่งขันบุรีรัมย์ มาราธอนได้อีกด้วย
แต่ถ้าถามว่าจะมีนักเตะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาร่วมวิ่งรายการนี้หรือไม่ ประธานสโมสรปราสาทสายฟ้ารีบออกตัวก่อนเลยว่า ถ้าวิ่งตอนเช้าแล้ว ตอนเย็นคงลงไปแข่งไม่ไหว ก็เลยจะไม่ได้เห็นนักเตะมาร่วมงานนี้ด้วย
ถือว่าเป็นงานวิ่งอีกรายการที่น่าสนใจ และยังเปิดรับสมัครจนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ทาง www.burirammarathon.com และตามจุดรับสมัครต่างๆ ใครที่รักในการวิ่งอยู่แล้ว ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
