พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวเปิดตัวลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อย่างเป็นทางการ ที่โรงแรมพูลแมน ซอยรางน้ำ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2558
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผบช.ภ.3 ทาบทามให้ตนมาสมัครเป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ แต่ตนลังเล คิดว่าจะไม่ลงสมัคร แต่หลังจากได้พูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้ดูแลสโมสรฟุตบอล คนในวงการฟุตบอล ทั้งหมดอยากให้ตนมาลงสมัคร เพราะถึงเวลาแล้วที่สมาคมฟุตบอลฯ ต้องมีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ตนจึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องกระโดดเข้ามารับใช้ชาติ สร้างชื่อเสียงให้ฟุตบอลไทยเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนทำให้พี่น้องคนไทยมีความสุข โดยทีมงานตอนนี้มี “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล เป็นประธานพัฒนาเทคนิค ส่วนคนอื่นๆ ทาบทามไว้แล้ว ยังเปิดเผยรายชื่อไม่ได้ แต่ทุกคนจะต้องฮือฮาแน่นอน
“สโลแกนของผมคือ แฟร์ (Fair) มีนโยบาย 5 ประการ คือ 1.แฟร์ การบริหารสมาคมฟุตบอลฯ 2.ทุกเกมการแข่งขันต้อง แฟร์เพลย์ แฟร์ในเรื่องของการตัดสิน 3.แฟร์ สิทธิประโยชน์ 4.ต้อง แฟร์ กับการส่งเสริมทุกชนิดกีฬาที่เป็นหน้าที่ของสมาคมฟุตบอลฯ และ 5.สร้างอคาเดมี่ เพื่อพัฒนาเยาวชน”
“หากผมได้เป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ ผมจะไม่ให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดเข้ามาบริหารงานในบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด แต่จะให้ทั้ง 18 สโมสรส่งตัวแทนมาบริหาร เพื่อร่วมกันพัฒนา เหมือนในอังกฤษ ใครทำอะไรไว้ผมไม่พูดถึง แต่ผมจะทำงานอย่างตรงไปตรงมา เปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบงบดุล และต้องชี้แจงได้ทุกๆ 6 เดือน”
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า ตนกับ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รู้จักกันมานานนับ 10 ปี นายเนวินเป็นทั้งเพื่อนและน้อง ซึ่งการที่ตนมาลงสมัครนายกสมาคมฟุตบอลฯ นายเนวิน เข้ามาช่วยสนับสนุนในฐานะเพื่อน ไม่มีพันธะ ไม่มีเงื่อนไขต่อกัน และหากตนได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ นายเนวินก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากตนอยู่แล้ว ขณะเดียวกันหากได้เป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ยินดีให้การสนับสนุนตนทุกรูปแบบอีกด้วย
“ผมเล่นฟุตบอลอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ติดตามฟุตบอลมาโดยตลอด สาเหตุที่ผมตัดสินใจมาลงสมัครครั้งนี้คือ หลังจากผมได้ดูแมตช์ระหว่าง สตูล ยูไนเต็ด กับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ผมรับไม่ได้กับการแข่งขัน ที่ไม่มีความยุติธรรม ทำให้ตำรวจต้องรับกรรม ผู้กำกับจ.สตูลโดนย้ายไปช่วยราชการ ผมสะเทือนใจมาก เพราะผมก็เป็นตำรวจ ผมนั่งคิดแล้วเราต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายเหตุ เราต้องปรับปรุงมาตฐานของผู้ตัดสินให้เป็นที่ยอมรับ ตามหลักสากล มีจริยธรรมและคุณธรรมในการตัดสิน” พล.ต.อ.สมยศ กล่าวทิ้งท้าย