‘สงขลา’ ผนึกภาคีเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน เตรียมพร้อมเจ้าภาพร่วมซีเกมส์ ครั้งที่ 33
ตามที่ประเทศไทยจะมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 โดยมี 3 จังหวัด เป็นเจ้าภาพร่วม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี และสงขลา ซึ่งทั้ง 3 จังหวัด มีความพร้อม และศักยภาพของบุคลากรในการเป็นเจ้าภาพในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านสนามแข่งขันและสนามฝึกซ้อม, ด้านที่พัก, ด้านสถานพยาบาล, ด้านบุคลากรอาสาสมัคร, ด้านสาธารณูปโภค, ด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ, ด้านงบประมาณ และด้านคมนาคม ที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ทำให้ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างทั่วถึง
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมการเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี2568 ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และจังหวัดชลบุรี ตามที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ประกาศแต่งตั้ง
สำหรับชนิดกีฬาที่จังหวัดสงขลาเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 มีจำนวน 14 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย ฟุตบอล, กรีฑา, ตะกร้อลอดห่วง, ฟุตซอล, บิลเลียด, เพาะกาย, มวยสากล, อีสปอร์ต, ไตรกีฬา, วอลเลย์บอลชายหาด, เซปักตะกร้อ, เอ็กซ์ตรีม, ปันจักสีลัต และจักรยาน
ส่วนสนามการแข่งขันจะใช้สนามกีฬาในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และ อ.เมืองสงขลาเป็นหลัก อาทิ สนามกีฬาติณสูลานนท์, สนามกีฬาจิระนคร เทศบาลนครหาดใหญ่, สนามกีฬามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สนามกีฬามหาวิทยาลัยทักษิณ, สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ฯลฯ
จากนั้นที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา หารือ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และให้ข้อเสนอแนะสำคัญร่วมกันทั้งด้านแผนปฏิบัติการ Action Plan 13 แผนงาน, แนวทางการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบภาษาไทย อังกฤษ และมาลายู, การขึ้นทะเบียนนักกีฬา สังกัดสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสงขลา, การจำหน่ายเสื้อสงขลาเมืองกีฬา, วันกีฬาประจำสัปดาห์ (ทุกวันพุธ) และกำหนดการแข่งขันโครงการเมืองกีฬา Sport City ประจำปี 2566 รวมถึงการจัดทำปฏิทินกีฬาแต่ละอำเภอ เป็นต้น
นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ถือเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยว นักกีฬา และกองเชียร์จาก 11 ประเทศสมาชิก ให้เดินเข้ามาในพื้นที่ ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยว การจับจ่ายใช้สอย ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของจังหวัดสงขลาเพิ่มขึ้น
