‘ภาณุพล’ แซงคว้าแชมป์กอล์ฟอาชีพ สิงห์ ออล ไทยแลนด์ ฟันเงิน 4.5 แสน
ภาณุพล พิทยารัฐ นักกอล์ฟวัย 30 ปี จากกรุงเทพฯ เก็บเพิ่มอีก 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสี่วัน 23 อันเดอร์พาร์ 265 เฉือนชนะ แสงชัย แก้วเจริญ 1 สโตรก คว้าแชมป์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์รายการที่สองในชีวิต รายการ “สิงห์ ออลไทยแลนด์ แชมเปียนชิพ 2023” ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท โดยรับเงินรางวัลแชมป์ไปครอง 4.5 แสนบาท ที่สนามสุวรรณ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี่คลับ ระยะ 7,061 หลา พาร์ 72 จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา
การแข่งขันรอบสุดท้ายเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ภาณุพล พิทยารัฐ นักกอล์ฟวัย 30 ปีจากกรุงเทพฯ ซึ่งเริ่มต้นด้วยการตามหลังผู้นำ 3 สโตรกเปิดฉากด้วยการเก็บ 2 เบอร์ดี้ในสามหลุมแรก จากนั้นไปได้เบอร์ดี้เพิ่มที่หลุม 8, 10, 11 และ 14 ก่อนไปพลาดเสียโบกี้แรกของทัวร์นาเมนต์ที่หลุม 16 แต่แก้ตัวด้วยเบอร์ดี้ที่หลุม 18 ทำให้จบสกอร์รอบสุดท้ายเข้ามาอีก 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสี่วันคว้าชัยชนะ 1 สโตรกด้วยสกอร์รวม 23 อันเดอร์พาร์ 265 รับเงินรางวัลไปครอง 450,000 บาท
ภาณุพล พิทยารัฐ ที่เพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บและกลับมาคว้าแชมป์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์รายการที่สองในอาชีพต่อจากชัยชนะในรายการสิงห์ ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส ที่สันติบุรี คันทรี่คลับ จ.เชียงราย เมื่อปี 2017 กล่าวว่า “ชัยชนะรายการนี้มันมีความหมายกับผมเป็นอย่างมาก มันทำให้ผมมีไฟกลับมาซ้อม กลับมาเล่นต่อ”
ในสัปดาห์นี้ ภาณุพล ลงเล่น 69 หลุมติดต่อกันโดยไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียว กระทั่งมาพลาดออกโบกี้แรกของทัวร์นาเมนต์ที่หลุม 16 ของรอบสุดท้าย ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยว่า “โบกี้นั้นจริงๆผมก็ไม่ได้คิดถึงมันมาก พยายามอยู่กับช็อตต่อไปและพยายามเล่นตามสถานการณ์ แต่พอมาถึงหลุมสุดท้ายมันบีบให้เราต้องพัตต์ให้ลงเพื่อชนะ แล้วทำได้ก็ถือว่าภูมิใจกับตัวเองครับ จริงๆก็ต้องขอบคุณตัวเองที่ยังทำอยู่ ที่ยังพยายามที่จะแข่งกอล์ฟอยู่”
นักกอล์ฟวัย 30 ปีที่มีดีกรีสองแชมป์เอเชี่ยนทัวร์ยังเผยถึงเกมการเล่นในรอบสุดท้ายด้วยว่า “ความจริงแผนการเล่นที่คิดไว้ก็คือต้องพยายามทำเบอร์ดี้ให้ได้เยอะที่สุด ก็ไม่เชิงเกมบุกแต่พยายามทำตัวเองให้ไปอยู่ในตำแหน่งที่ทำเบอร์ดี้ให้ได้ วันนี้ก็ถือว่าตีได้ดี อาจจะมีบางช็อตที่ไม่ดีแต่เราก็สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้เป็นอย่างดี”
ส่วน แสงชัย แก้วเจริญ นักกอล์ฟวัย 24 ปีจากกรุงเทพฯ ที่กำลังลุ้นแชมป์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์รายการแรกในอาชีพและเริ่มวันด้วยการนำ 3 แต้ม ทว่าในเก้าหลุมแรกของเขาไม่มีเบอร์ดี้แม้แต่หลุมเดียว แถมพลาดออกโบกี้ที่หลุม 9 เข้าเก้าหลุมหลังเร่งเครื่องเก็บเพิ่ม 3 เบอร์ดี้แต่ไล่ไม่ทันก่อนจบรอบสุดท้าย 2 อันเดอร์พาร์ 70 รวมสี่วันแพ้ไป 1 สโตรกที่สกอร์รวม 22 อันเดอร์พาร์ 266 ขณะที่อันดับสามเป็นของ สิรภพ ยะปาละ ที่หวดเข้ามา 2 อันเดอร์พาร์ 70 รวมสี่วัน 18 อันเดอร์พาร์ 270
ทางด้าน พสิษฐ์ เอี่ยมผ่องใส คว้ารางวัลศุภพร มาพึ่งพงศ์ สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ทำผลงานดีที่สุดไปครอง โดยในรอบสุดท้าย พสิษฐ์ ตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์ 73 รวมสี่วัน 11 อันเดอร์พาร์ 277 จบการแข่งขันในอันดับสิบหกร่วม แต่เป็นผลงานของนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ดีที่สุดในรายการนี้
สำหรับการแข่งขันออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์รายการต่อไปจะแข่งขันระหว่างวันที่ 7-10 กันยายน 2566 ที่สนามบางกอก กอล์ฟคลับ จ.ปทุมธานี ในรายการสิงห์ บางกอก โอเพ่น 2023 ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นรายการที่สิบของฤดูกาล 2023
