เป็นประจำกันทุกปี กับบทสรุป 10 ข่าวเด่นกีฬาต่างประเทศ แต่ปีนี้จะมีข่าวไหนที่อยู่ในโผกันบ้าง ติดตามชมกันได้เลย
10.ปลดล็อก
นอกจากจะสร้างความสุขให้แฟนบาสทีมตัวเองแล้ว คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ยังปลดแอกให้คนคลีฟแลนด์ทั้งเมืองได้เห็นทีมกีฬาของเมืองคว้าแชมป์การแข่งขันกีฬาระดับเมเจอร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1964 หรือนับจากทีมอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล คลีฟแลนด์ บราวน์ส ได้แชมป์ลีก “คนชนคน” สมัยเกมชิงดำยังไม่ใช่ศึกซุปเปอร์โบว์ล ฤดูกาล 1964 เมื่อ 52 ปีก่อน
หลัง เลบรอน เจมส์ และพ้องเพื่อนพา “แคฟส์” ล้างแค้น โกลเดนสเตท วอร์ริเออร์ส ที่ฝากรอยช้ำจากรอบชิงชนะเลิศบาสเกตบอลเอ็นบีเอ 1 ปีก่อนหน้านั้น ด้วยการแซงกลับมาชนะซีรีส์ชิงดำฤดูกาล 2015-16 เหนือทีม “นักรบ” ซึ่งมี สตีเฟ่น เคอร์รี่ เป็นจอมทัพ 4-3 เกม
9.ร่างทรง
การสาวไส้กันเองระหว่าง “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” อย่าง เซ็ปป์ แบล๊ตเตอร์ และ มิเชล พลาตินี่ เพื่อชิงตำแหน่งประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่แบล๊ตเตอร์ครองอยู่จะทำให้ทั้งคู่ “เสียคน” ตอนแก่ จนกระเด็นจากเก้าอี้นายใหญ่ “ฟีฟ่า” และ “ยูฟ่า” (สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป) อย่างไม่น่าเชื่อมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับ 2 บุคคลที่ทรงอิทธิพลของวงการลูกหนังแล้ว
ยิ่งกว่านั้น “เชื้อร้าย” ในคราบ “ร่างทรง” ของพลาตินี่ยังไม่หายไปไหน หลังมือขวา “นโปเลียนลูกหนัง” ที่ชื่อ จานนี่ อินฟานติโน่ เลขาธิการยูฟ่าที่แฟนบอลคุ้นหน้ากันดีในฐานะพิธีกรจับสลากศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสโลวีเนีย กลับชนะเลือกตั้งเป็นผู้นำองค์กรคนใหม่ฟีฟ่า และยูฟ่า หน้าตาเฉย!
8.กลืนน้ำลาย
แม้ แมนนี่ ปาเกียว จะไม่ดุดันสมเจ้าของฉายา “แพ็คแมน” ที่ไล่บี้ไล่ต่อยจนคู่ต่อสู้หายใจไม่ทันเหมือนก่อน แต่การที่เจ้าตัวประกาศแขวนนวมด้วยวัย 37 ปี หรือหลังไฟต์ชนะคะแนน ทิโมธี แบร๊ดลีย์ ต้นเดือนเมษายน ส่งผลให้คอมวยทั่วโลกอดใจหายไปตามๆ กันไม่ได้ แต่แล้วคำพูดของปาเกียวที่ต้องการทุ่มเทเวลาให้บ้านเมือง กับการทำหน้าที่เป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ประเทศฟิลิปปินส์ ก็เป็นเพียงแค่ลมปาก และสมกับเป็นนักการเมืองเข้าไปทุกที
หลังเปลี่ยนใจคืนสังเวียนในอีก 3 เดือนต่อมา และมีเป้าหมายเดิมคือขอโอกาสล้างตา ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ที่ตัวเองเคยแพ้คะแนนแบบหมดรูป แต่ดูเหมือนฟลอยด์จะไม่เล่นด้วย ปาเกียวจึงต้องต่อยแก้เก้อด้วยการไล่ยำ เจสซี่ วาร์กาส ไปพลางๆ ก่อน
7.คุ้ม-ไม่คุ้ม
แทนที่จะสร้างความฮือฮาให้แฟนบอลทั้งโลก เหมือนตอน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ แกเร็ธ เบล ทำผลงานให้รีล มาดริด ในฐานะนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก แต่ ปอล ป๊อกบา ที่เคยจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปยูเวนตุส 4 ปีก่อนด้วยค่าตัวไม่กี่แสนปอนด์ และถูกทีม “ปีศาจแดง” ทุ่มเงินซื้อกลับมาเป็นสถิติโลก 89 ล้านปอนด์ ยังเล่นไม่คุ้มค่าตัวแม้แต่แดงเดียว
4 แชมป์ลีก และ 5 แชมป์บอลถ้วยแดนมะกะโรนี ตามด้วยรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และรองแชมป์ยูโร 2016 กลายเป็นเรื่องตลกในสายตากองเชียร์ฝั่งตรงข้ามว่า ห้องเครื่องมากเทคนิควัย 23 ปีรายนี้ ไม่ได้เก่ง หรือสามารถแบกทีมได้อย่างที่คิด หลังลงเตะให้แมนฯ ยูไนเต็ด 25 นัดจากทุกรายการ เพิ่งทำได้แค่ 6 ประตู และจ่ายให้เพื่อน 4 ประตู
6.อึ้ง
หลัง นิโก้ รอสเบิร์ก พิสูจน์ตัวเองทั้งใน และนอกสนาม กับการคว้าแชมป์โลกเอฟวันครั้งแรกในชีวิต ทั้งที่ทุกคนต่างรู้อยู่เต็มอกว่า ทีมเมอร์เซเดสมีนักขับเบอร์ 1 คือ ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลก 3 สมัย ที่นอกจากไม่ชอบหน้ารอสเบิร์กแล้ว ยังจงใจไม่ให้อีกฝ่ายได้แชมป์โลกในสนามสุดท้ายอีกด้วย
แต่เมื่อตีนผีจากเยอรมนี วัย 31 ปี ผ่านมรสุมดังกล่าวมาได้ เขากลับช็อกแฟนความเร็วด้วยการอำลาวงการในอีก 5 วันถัดมา และยืนยันว่าเริ่มมีความคิดดังกล่าวตั้งแต่ 8 สัปดาห์ที่แล้ว ก่อนตัดสินใจเด็ดขาดหลังคว้าแชมป์โลกไม่ถึง 24 ชั่วโมง จนเรียกได้ว่ารอสเบิร์กเป็นหนึ่งในคนจริงที่พอใจกับสิ่งที่ได้มา รวมทั้งเปิด และปิดตำนานได้อย่างเรียบง่าย
5.ไทเกอร์คัมแบ๊ก
ถึงจะรู้ว่า ไทเกอร์ วู้ดส์ ต้องฟิตตัวกลับมาตีกอล์ฟไม่วันใดวันหนึ่งได้อีกครั้ง แต่การร้างสนามไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2015 ด้วยสาเหตุเจ็บหมอนรองกระดูกหลัง จนต้องผ่าตัดซ้ำแล้วซ้ำอีก และเลื่อนการคัมแบ๊กเป็นว่าเล่น ทำเอาหลายคนแอบเผื่อใจไว้ไม่น้อยว่า “พญาเสือ” อาจไปแล้วไปลับเลยก็ได้
ทว่าอดีตมือ 1 โลกวัยเกือบ 41 ปีก็ไม่ผิดคำพูด เมื่อกลับมาโชว์วงสะวิงในรายการที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพช่วงต้นเดือนธันวาคม แม้จะไม่ใช่การแข่งขันอย่างเป็นทางการของศึกพีจีเอทัวร์ และจบแค่ที่ 3 จากบ๊วยกับการคืนสนามในรอบ 16 เดือน แต่ตลอดเวลา 5 วันรวมรอบโปรแอม วู้ดส์ยังมีจังหวะสวยๆ ที่คอยชดเชยช็อตแย่ๆ ทั้งตะบันอีเกิล หรือเหมาวันเดียว 7 เบอร์ดี้ ปราศจากโบกี้ และเหลือเพียงไม่ให้โรคเดี้ยงเรื้อรังกลับมาอีกเท่านั้น
4.เป๊ปและมู
ไม่ว่าผลงานการเป็นนายใหญ่ทีมใหม่ตอนนี้ ของ 2 ยอดกุนซือแห่งยุคจะไม่สมกับการรอคอยแค่ไหน แต่หากย้อนไปหลายเดือนก่อน ต้องยอมรับว่าการตอบตกลงคุม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ โจเซ่ มูรินโญ่ กลายเป็นข่าวที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั้งวงการฟุตบอล
หลังเป๊ปที่ถูกปรามาสมาตลอดว่า ต่อให้ไม่เป็นกุนซือบาร์เซโลน่า และบาเยิร์น มิวนิก 2 มหาอำนาจดังกล่าวก็คงกวาดแชมป์ได้ไล่เลี่ยกับ 21 ความสำเร็จที่เขาเคยสร้างไว้ ด้วยการลองของกับลีกที่หินที่สุดในโลกอย่างพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ขณะที่ “เดอะ สเปเชียล วัน” ก็ต้องการให้ทุกคนได้เห็นว่าเขายังมือไม่ตก และไม่ใช่บอลตกยุคเหมือนที่โดนเชลซีเฉดหัวออกมาเป็นครั้งที่ 2
3.โด๊ป
จริงอยู่ที่การโด๊ปยาไม่มีวันหมดไปจากวงการกีฬา แต่ใครจะเชื่อว่านักกีฬาระดับโลกอย่าง มาเรีย ชาราโพว่า ซึ่งมีทีมงานเป็นกะตั้กจะกล้าๆ ตกข่าวว่าองค์การต่อต้านสารต้องห้ามโลก (วาด้า) แบนยาตัวไหนบ้าง เช่นเดียวกับ ทัพนักกีฬารัสเซีย ที่ขึ้นชื่อเรื่องโด๊ปยาในอดีต จะได้รับการถือหางจากรัฐบาลตัวเองจนโด๊ปกันแหลกลาญเป็นพันๆ คน
อย่างไรก็ตาม มาเรียซึ่งเป็นคนรัสเซียพอจะอ้างขึ้นว่า ใช้สารเมลโดเนียมที่ “วาด้า” เพิ่งขึ้นทะเบียนเป็นสารต้องห้ามช่วงต้นปี รักษาสุขภาพตัวเองมาเป็นสิบปี แต่ไม่วายชดใช้กรรมห้ามแข่งเทนนิส 15 เดือน ต่างจากกรณีนักกีฬาแดน “หมีขาว” ที่แถยังไงก็ฟังไม่ขึ้น และเกือบไม่ได้ไปแข่งโอลิมปิก 2016 ทั้งหมด
2.มือ1คนใหม่
ต่อให้ แอนดี้ เมอร์เรย์ จะถูกสื่อในเกาะอังกฤษของตัวเองอวยว่ามีลุ้นเป็นมือ 1 โลกคนใหม่ หลังเป็นแร็กเกตชายคนแรกของสหราชอาณาจักรที่ได้แชมป์เทนนิสแกรนด์สแลมตั้งแต่ปี 1936 กับแชมป์ยูเอส โอเพ่น 2012 และอีกแชมป์สแลมวิมเบิลดันปีต่อมา รวมทั้งการจับตา อังเกลิค แคร์เบอร์ สาวแกร่งจากเยอรมนี
แต่การเล่นที่ไม่แน่นอน และสภาพร่างกายที่ยืนระยะไม่ได้ตลอดรอดฝั่งของทั้งคู่ จึงยากจะเชื่อว่าเมอร์เรย์กับแคร์เบอร์จะโค่นบัลลังก์เบอร์ 1 โลกอย่าง โนวัก โยโควิช และ เซเรน่า วิลเลียมส์ ซึ่งครองมานานถึง 122 และ 186 สัปดาห์ติดต่อกันได้
ทว่าเมอร์เรย์ก็พิสูจน์ให้เห็นกับ 8 แชมป์ และ 1 เหรียญทองโอลิมปิกจนได้ยศท่าน “เซอร์” ส่วนแคร์เบอร์กวาดแชมป์สแลม 2 และรองแชมป์อีก 1
1.ช็อกโลก
ด้วยวิวัฒนาการแบบก้าวกระโดดของโลกลูกหนังยุคใหม่ บวกกับเม็ดเงินมหาศาลของทีมยักษ์ใหญ่ จึงแทบเป็นไปไม่ได้ที่ทีมนอกสายตายุคนี้ จะเขียนเทพนิยายตามรุ่นพี่เหมือนทีมชาติ เดนมาร์ก ที่คว้าแชมป์ยูโร 1992 หรือ ไกเซอร์สเลาเทิร์น ซึ่งได้ถาดแชมป์บุนเดสลีก้า เยอรมนี ในฐานะทีมน้องใหม่ฤดูกาล 1997-98 ทว่า เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรเล็กๆ ที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ และทีมชาติ โปรตุเกส พระรองในเวทีโลก กลับสวนทางกับทุกความ “เป็นไปไม่ได้”
เมื่อ “จิ้งจอกสยาม” หุบปากนักวิจารณ์ด้วยการใช้เวลาโชว์ให้เห็นกว่า 9 เดือนเต็ม กับการผงาดแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 132 ปีของสโมสร เช่นเดียวกับโปรตุเกสที่ไม่เคยสัมผัสความสำเร็จระดับชาติ และไร้ “หัวใจ” ของทีมอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เกือบตลอดเกมชิงดำกับ ฝรั่งเศส เจ้าภาพ แต่กลับเป็นแชมป์ยูโร 2016 ได้อย่างเหลือเชื่อ
เก็บตก
ถึงจะแทรกเป็น 1 ใน 10 ข่าวเด่นไม่ได้ แต่ทุกข่าวต่อไปนี้ก็มีความสำคัญไม่น้อยหน้าใคร เริ่มที่เรื่องดีๆ กับโครงการเพิ่มทีมเข้ารอบบอลโลกจาก 32 เป็น 40 หรือ 48 ทีมของ จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานฟีฟ่าคนใหม่ แต่ที่เข้าท่ายิ่งกว่าคือการผลักดันให้นำภาพช้ามาช่วยผู้ตัดสิน
จากนั้นเป็นการคว้าเหรียญทองฟุตบอลโอลิมปิกชายครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทีมชาติ บราซิล ซึ่งมี เนย์มาร์ นำทัพบนแผ่นดินตัวเอง ตามด้วยการสร้างสถิติ และอำลาโอลิมปิกไปพร้อมๆ กันของ ไมเคิล เฟลป์ส ที่กลับมาว่ายน้ำอีกครั้ง ก่อนไว้ลายกวาดอีก 5 เหรียญทอง และ 1 เหรียญเงิน ยืดสถิติเหรียญทองสูงสุด 23 เหรียญ และเหรียญรวมสูงสุด 28 เหรียญที่ตัวเองทำไว้ออกไป ไม่ต่างกับ ยูเซน โบลต์ จ้าวลมกรดที่ทิ้งทวนโอลิมปิก 3 เหรียญทอง เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน
รวมทั้งการได้แชมป์เวิลด์ซีรีส์รอบ 108 ปีของ ชิคาโก คับส์ ทีมเบสบอลในศึกเมเจอร์ลีกสหรัฐ และแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 11 ของ รีล มาดริด ทั้งที่ ซีเนอดีน ซีดาน เพิ่งคุมทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในชีวิตไม่ถึง 5 เดือน ถัดมาเป็นข่าว เซเรน่า วิลเลียมส์ อดีตมือ 1 โลกหญิงประกาศหมั้นอเล็กซิส โอฮาเนียน เจ้าของเว็บไซต์ดังแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ส่วนข่าวฉาวต้องเป็น แซม อัลลาไดซ์ ซึ่งขึ้นสวรรค์กับการเป็นกุนซือทีมชาติอังกฤษ บ้านเกิดได้แค่ 67 วัน ก็ต้องกระเด็นจากตำแหน่ง เพราะความโลภที่ถูกนักข่าวปลอมตัวล่อให้ “บิ๊กแซม” เรียกเงินใต้โต๊ะในการเป็นตัวกลางซื้อขายนักเตะ แต่ที่ฉาว และน่าเกลียดกว่าคงไม่มีใครเกินการตัดสินมวยโอลิมปิก 2016 ของ สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ (ไอบ้า) ที่ค้านสายตาแฟนมวยทั่วโลก โดย ฉัตร์ชัย บุตรดี และ วุฒิชัย มาสุข ขุนพลเสื้อกล้ามไทยคือหนึ่งในเหยื่อกลโกงหนนี้
ข่าวหลากอารมณ์ ที่เขย่าประสาทในตอนแรก แต่ลงเอยแบบโอละพ่อ ไม่พ้นการเจอวัตถุคล้าย ระเบิด ในห้องน้ำสนาม โอลด์แทรฟฟอร์ด ของสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสุดท้ายฤดูกาลก่อนที่ “ปีศาจแดง” เปิดบ้านรับมือบอร์นมัธ วันที่ 15 พฤษภาคม ต้องโกลาหล และยกเลิกกะทันหัน ทว่าสุดท้ายกลับเป็นระเบิดปลอมที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งลืมไว้ระหว่างการซ้อมรักษาความปลอดภัย 4 วันก่อนหน้านั้น
แต่ “ของจริง” กลับเกิดขึ้นใกล้สนาม โวดาโฟน อารีน่า ของ เบซิกตัส ที่นครอิสตันบุล ประเทศตุรกี กับระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มก่อการร้าย หลังเกมลีกที่เบซิกตัสชนะบูร์ซาสปอร์ 2-1 วันที่ 10 ธันวาคม ไม่กี่ชั่วโมง จนมีคนตายเกือบครึ่งร้อยคน และบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 150 คน
ข่าวระทึกขวัญรองลงมาเป็น เปตร้า ควิโตว่า นักเทนนิสสาธารณรัฐเช็ก และอดีตมือ 2 โลกหญิง ถูกคนร้ายบุกชิงทรัพย์ถึงบ้านพัก และโดนมีดแทงมือซ้ายข้างถนัดต้องพักยาวครึ่งปี
ปิดท้ายด้วยข่าวเศร้ากับการอำลาวงการยัดห่วงของ โคบี้ ไบรอันต์ ยอดการ์ดตลอดกาลที่พา แอลเอ เลเกอร์ส คว้าแชมป์บาสเกตบอลเอ็นบีเอถึง 5 สมัย และ อนา อิวาโนวิช อีกหนึ่งแร็กเกตสาวเซอร์เบีย อดีตมือ 1 โลก ประกาศอำลาวงการด้วยวัยแค่ 29 ปี เพราะเจ็บเรื้อรังจนคืนฟอร์มเก่งไม่ได้ ส่วนที่เศร้ากว่าคือการสิ้นลมของตำนานนักกีฬาอย่าง มูฮัมหมัด อาลี, โยฮัน ครัฟฟ์, อาร์โนลด์ พัลเมอร์ส และเครื่องบินที่บรรทุกทั้งนักเตะ, สต๊าฟโค้ช, ทีมงาน ชาเปโคเอนซ์ สโมสรลูกหนังลีกบราซิล ตกตายเกือบยกลำ
นี่คือบทสรุปของ 10 ข่าวเด่น และข่าวตกสำรวจกีฬาต่างประเทศตลอดปี 2016
