“เทวินทร์-เอรียา” สุดยอดนักกีฬาแห่งปีวอก

ในรอบปี พ.ศ.2559 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นอีกปีหนึ่งที่นักกีฬาไทยผลัดกันทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าประทับใจ สร้างรอยยิ้มพร้อมกับคืนความสุขให้กับประชาชนไทยได้ตลอดทั้งปีวอก ดังนั้นในวาระส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ทีมข่าวกีฬามติชนจึงขอเลือกนักกีฬายอดเยี่ยมทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงในรอบปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการทบทวนผลงานและยกย่องในความสำเร็จเหล่านั้น

เริ่มต้นที่ฝ่ายชายก่อน ไม่ว่าจะเป็น ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งทำผลงานเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รวมถึงป้องกันแชมป์ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ” มาได้ ก็นับว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม หรือว่าจะเป็น ดุ่ย-สินเพชร์ กรวยทอง จอมพลังหนุ่มที่คว้าเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ 2016 มาได้เป็นจอมพลังชายไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมี สอง-ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข ที่กลายเป็นนักแบดมินตันชายไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ระดับซุปเปอร์ซีรีส์ พรีเมียร์มาครอง

แต่ถ้าจะคัดคนที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุดในปีนี้แล้ว คงต้องยกให้กับ เทม-เทวินทร์ หาญปราบ จอมเตะดาวรุ่ง ที่สามารถคว้าเหรียญเงินในรีโอเกมส์มาได้แบบประทับใจแฟนกีฬาชาวไทย รวมไปถึงยังเป็นเหรียญจากกีฬาเทควันโดที่มาจากนักกีฬาชายคนแรกของไทยอีกด้วย

เทวืนทร์ (3)

Advertisement

เด็กหนุ่มวัย 18 ปี จากปทุมธานีรายนี้ เริ่มเล่นกีฬาเทควันโดมาตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบเท่านั้น แต่คงไม่มีใครรู้ว่ากว่าที่เทมจะเกิดมาได้นั้น ต้องได้รับการฟูมฟักอย่างมากตั้งแต่เด็ก เนื่องจากคุณแม่ ณิศาภัทญ์ มีลูกยากมาก จนต้องฉีดยากันแท้งทุกสัปดาห์นานถึง 6 เดือน กว่าที่จอมเตะน้อยรายนี้จะกำเนิดขึ้นมา

เทวินทร์เริ่มสร้างชื่อมาตั้งแต่ในระดับเยาวชน เมื่อสามารถคว้าเหรียญทองในการคัดเลือกยูธโอลิมปิกเกมส์ 2014 พร้อมกับคว้าตั๋วไปลุยรอบสุดท้ายมาได้สำเร็จ แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็นับเป็นก้าวย่างที่ดีของเจ้าตัวในเวลานั้น จนกระทั่งช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่ผันตัวขึ้นมาเล่นในระดับประชาชน เทมก็สามารถคว้าเหรียญทองแดงในการแข่ง ยูเอส โอเพ่น มาครอง ก่อนจะก้าวไปคว้าเหรียญทองในรายการ ฟูไจราห์ โอเพ่น มาครองได้ด้วย

จากนั้นเทวินทร์ก็ร่วมแข่งขันเทควันโดโอลิมปิกเกมส์รอบคัดเลือกที่ประเทศฟิลิปปินส์ แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวในรอบชิงชนะเลิศ แต่เจ้าตัวก็คว้าโควต้าลุยโอลิมปิกเกมส์ได้สำเร็จ

Advertisement

แม้ว่าเจ้าเทมออกจะเป็นม้านอกสายตาสำหรับคนไทยก่อนที่จะเริ่มต้นการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ เวอร์ชั่นบราซิล เนื่องจากเจ้าตัวถูกจับให้เป็นอันดับ 15 ของ 16 นักกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ และต้องเผชิญกับ คิม แตฮุน จอมเตะเบอร์ 2 ของโลกจากแดนกิมจิ ตั้งแต่รอบแรก

ทว่าเทวินทร์ก็สวมหัวใจสิงห์ ล้มยักษ์ลงได้ตั้งแต่รอบแรก สร้างความประทับใจให้กับแฟนกีฬาไทย พร้อมกับสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง ก่อนจะทะยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ การันตีว่ามีเหรียญกลับบ้านอย่างแน่นอน

เทวืนทร์ (1)

ในรอบชิงชนะเลิศนั้นต้องนับว่าเป็นที่น่าเสียดายไม่น้อยทีเดียว เพราะต้องเจอกับ จ้าว ฉ่าย จอมเตะจากจีน ที่สรีระร่างกายของ เทวินทร์ค่อนข้างเป็นรอง ทำให้เจ้าเทมต้องเล่นอย่างยากลำบาก รวมกับการกรำศึกหนักตลอดทั้งวัน ทำให้เร่งไม่ขึ้น จนสุดท้ายก็ได้เพียงแค่เหรียญเงินเท่านั้น

เทวืนทร์ (2)

อย่างไรก็ตาม นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เจ้าเทมกลายเป็นนักกีฬาชายอายุน้อยที่สุดคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ด้วยวัยเพียง 18 ปี 17 วันเท่านั้น และด้วยวัยที่ไม่มาก จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คณะกรรมการคัดเลือกรางวัลนักกีฬาดีเด่น วันกีฬาแห่งชาติประจำปีนี้ต้องปวดหัวไม่ใช่น้อย เพราะเจ้าตัวมีเอี่ยวทั้งรางวัลนักกีฬาสมัครเล่นชายดีเด่น และนักกีฬาเยาวชนชายสมัครเล่นดีเด่น ก่อนที่คณะกรรมการจะมอบรางวัลนักกีฬาสมัครเล่นชายดีเด่นให้ไปครองในที่สุด

ในอนาคตข้างหน้าหากเทวินทร์ยังคงมุ่งมั่นไปในทางนี้ ด้วยทักษะต่างๆ ที่มี และประสบการณ์ เชื่อว่าอีก 4 ปีในโอลิมปิกเกมส์ที่กรุงโตเกียว เจ้าเทมจะไม่ได้ไปแบบม้ามืดเหมือนครั้งนี้แน่นอน

มาถึงฝ่ายหญิงกันบ้าง จริงๆ แล้วในปีวอกที่ผ่านมา นักกีฬาหญิงของไทยถือว่าทำผลงานกันได้ดีหลายคน ไม่ว่าจะเป็น แนน-โสภิตา ธนสาร กับ ฝ้าย-สุกัญญา ศรีสุราช 2 จอมพลังสาวที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์มาได้ หรือว่าจะเป็น น้องเมย์-รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันสาวที่สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ซุปเปอร์ซีรีส์ 3 รายการติดต่อกันได้เป็นคนแรก ของโลก รวมไปถึง ณี-สุธิยา จิวเฉลิมมิตร แชมป์เป้าบินเวิลด์คัพ 2 รายการในปีเดียวกัน

แต่ถ้าหากจะมองดูคนที่มีผลงานต่อเนื่องและรักษาความสม่ำเสมอของตัวเองมาได้ตลอดทั้งปี คงจะต้องยกให้กับ โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟหญิงของไทย ที่ปีนี้สามารถทะยานขึ้นไปเป็นเบอร์ 2 ของโลกได้อย่างยิ่งใหญ่

CME Group Tour Championship - Final Round

หากลองย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 นับว่าเป็นขาลงของเธออย่างแท้จริงกับการที่ไม่ผ่านการตัดตัวถึง 10 รายการติดต่อกัน ทว่าคนเราเมื่อลงสุดแล้ว ก็คงจะไม่มีต่ำไปกว่านี้ ดังนั้น ปีนี้ของโปรเมจึงมีแต่ทะยานขึ้นและขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เริ่มต้นด้วยการปลดล็อกคว้าแชมป์แอลพีจีเอรายการแรกของตัวเองได้สำเร็จ ก่อนจะคว้าต่อเนื่องเป็น 3 แชมป์ติดต่อกัน กลายเป็นนักกอล์ฟสาวคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอหนแรกแล้วทำได้ 3 แชมป์ติดต่อกัน ไม่เพียงเท่านั้น เอรียายังพุ่งสุดสุด ด้วยการคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ได้เป็นคนแรกในรายการ วีเม่นส์ บริติช โอเพ่น

แม้ว่าอาจจะมีสะดุดไปบ้างกับโอลิมปิกเกมส์ ที่นครรีโอเดจาเนโร แต่ก็ยังกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกหนึ่งรายการ ก่อนที่ในช่วงปลายปีจะสร้างชื่อเสียงกระหึ่มอีกครั้งด้วยการคว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีไปครอง พร้อมเงินโบนัส 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (35 ล้านบาท) จากคะแนนสะสม เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ ทำให้เอรียาปิดฤดูกาลของตัวเองได้อย่างยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เล่นกอล์ฟมาเลยก็ว่าได้

ส่วนหนึ่งซึ่งช่วยให้โปรเมที่กำลังย่ำแย่พลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างยอดเยี่ยมนั้น คงต้องยกให้ทีมงานที่คอยอยู่เบื้องหลังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แกรี่ กิลคริสต์ โค้ชวงสะวิง ที่มาแก้ไขจุดบกพร่อง หรือแคดดี้คู่ใจทั้ง เลส ลูอาร์ก และ ปีเตอร์ ก็อดฟรีย์ ซึ่งแบ่งเบาความกดดันได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงทีมงาน วิชั่น 54 ที่มาดูแลเรื่องจิตวิทยาให้

CME Group Tour Championship - Round Two

แต่สิ่งที่กูรูกอล์ฟต่างประเทศลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า กำลังใจที่สำคัญที่สุดของเอรียานั้นก็คือครอบครัว ที่คอยให้กำลังใจกันเสมอ ไม่ว่าจะล้มลุกคลุกคลานขนาดไหน โดยเฉพาะพี่สาวอย่าง โปรโม-โมรียา จุฑานุกาล ที่เป็นทั้งเพื่อน, คู่แข่ง, คู่คิด และไปไหนไปกันในทุกสนามแข่งขัน

ทว่าเป้าหมายที่แท้จริงของโปรเมนั้นยังคงรออยู่ในปี 2017 นั่นก็คือ การทะยานขึ้นไปเป็นเบอร์ 1 ของโลกให้ได้ นอกจากนี้ ยังมีการล้างตาในการแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2017” ซึ่งเป็นรายการในไทย ที่โปรเมเฉี่ยวๆ ตำแหน่งมาหลายครั้ง

และหวังว่าจะเป็นปีที่ดีกว่าปีที่ผ่านมาอีกครั้งหนึ่ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image