ที่มา | คลุกวงใน, มติชนสุดสัปดาห์ |
---|---|
ผู้เขียน | พิศณุ นิลกลัด |
เผยแพร่ |
โชเซ่ มูรินโญ่ เพิ่งเปิดใจให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรกหลังจากถูกปลดจากการเป็นผู้จัดการทีมเชลซี เมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว
บทสัมภาษณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของโฆษณารถยนต์จากัวร์ รุ่น Jaguar F Pace ซึ่งมูรินโญ่เป็นพรีเซ็นเตอร์เมื่อปี 2014
แม้จะเป็นหนังโฆษณา แต่มูรินโญ่ได้ให้สัมภาษณ์อย่างเปิดใจ ไขข้อสงสัยของแฟนๆ ฟุตบอลทั่วโลกถึงชีวิตหลังถูกปลดจากผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทีมหนึ่งในพรีเมียร์ ลีก ว่าเขารู้สึกเบื่อหรือเปล่า?
มีเป้าหมายในอนาคตอย่างไร?
จะกลับมาเป็นผู้จัดทีมหรือไม่?
จากการประเมินทรัพย์สินของยอดกุนซือระดับโลก ประมาณกันว่ามูรินโญ่มีทรัพย์สมบัติคิดตัวเลขเป็นเงินไทยก็กว่าหนึ่งพันล้านบาท
มีทรัพย์สินมากมายขนาดนี้ ว่าไปแล้วมูรินโญ่ไม่จำเป็นต้องรีบขวนขวายหางานทำ เขาน่าจะเอาเวลาไปพักผ่อน อยู่อย่างสบายๆ กับครอบครัวสักระยะ
แต่เวลาผ่านไปไม่ถึงสองเดือน มูรินโญ่บอกตัวเขาไม่มีความสุขเมื่อไม่ได้ทำงาน เพราะเขาสามารถมีครอบครัว มีเพื่อนฝูง มีชีวิตที่สงบ-ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาชอบ พร้อมๆ ไปกับมีฟุตบอลอยู่ในชีวิต
เขาต้องการมีทุกสิ่งที่กล่าวมาพร้อมๆ กัน โดยไม่จำเป็นต้องเสียอย่างหนึ่งอย่างใดไป
มูรินโญ่บอกเขาจะมีความสุขอย่างสมบูรณ์ เขาต้องมีทุกสิ่งข้างต้นพร้อมกัน ดังนั้นเขาจึงต้องหวนคืนวงการฟุตบอล เพราะวงการนี้เปรียบแล้วเหมือนกับบ้านของเขา
ตั้งแต่จำความได้ มูรินโญ่ทำงานในวงการฟุตบอลมาตลอด เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลตั้งแต่ปี 2000
ครั้งแรกที่มูรินโญ่พ้นจากการเป็นผู้จัดการทีมคือปี 2007 เมื่อ “ลาออก” จากทีมเชลซี แต่อีก 8 เดือนต่อมา เขาก็ไปคุมทีมอินเตอร์มิลานของอิตาลี
สำหรับครั้งล่าสุดนี้เป็นครั้งที่สอง ที่มูรินโญ่ไม่ได้ทำงาน ซึ่งเจ้าตัวบอกไม่ใช่เรื่องใหญ่โต เพราะเขาจะกลับมาในเร็วๆ นี้แน่นอน
แต่มูรินโญ่ไม่ได้เผยว่าจะมาเป็นผู้จัดการให้กับทีมไหน?
จะใช่ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามที่เป็นข่าวอยู่ในเวลานี้หรือเปล่า?
มีการศึกษาน่าสนใจเรื่อง “ผู้จัดการทีมในพรีเมียร์ ลีก กับความผูกพันกับฟุตบอล” ที่วิจัยออกมาดังนี้ครับ
80% ของผู้จัดการทีมเริ่มดูการแข่งขันฟุตบอลที่สนามจริงครั้งแรกในชีวิตตั้งแต่อายุไม่ถึง 9 ปี
อย่างมูรินโญ่ ติดตามดูพ่อซึ่งเป็นผู้รักษาประตูอาชีพของลีกโปรตุเกสที่สนามจริงตั้งแต่เด็ก เมื่อพ่อก้าวขึ้นเป็นผู้จัดการทีม มูรินโญ่ก็ติดตามพ่อไปตลอด เจริญรอยตามพ่อเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล
50% บอกว่าเข้าดูการแข่งขันฟุตบอลครั้งแรกที่สนามขณะอายุไม่ถึง 6 ปี
7% บอกไปดูพรีเมียร์ ลีก เกมแรกตั้งแต่อายุ 3 เดือน
12% ไปดูการแข่งขันตอนอายุไม่ถึง 2 ขวบ
59% เดินทางไปเชียร์ทีมโปรดเวลาไปแข่งขันในฐานะทีมเยือนตั้งแต่ยังเด็ก
การศึกษาครั้งนี้ จัดทำโดยพรีเมียร์ ลีก โดยทำการสอบถามผู้จัดการทีมฤดูกาล 2013/2014 ในพรีเมียร์ ลีก ทั้ง 20 คน
ผู้จัดการทีมในพรีเมียร์ ลีก 41% บอกว่าประสบการณ์อันทรงคุณค่าจากการเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลในสนามจริงคือการได้เห็นนักฟุตบอลในดวงใจแข่งขันแบบตัวเป็นๆ เป็นแรงบันดาลใจให้มีความรักในฟุตบอลและฝันที่จะมีอาชีพในวงการฟุตบอล
30% บอกประสบการณ์ที่มีคุณค่าที่สุดคือบรรยากาศการเชียร์ของแฟนๆ ในสนาม
40% เห็นว่า แฟนฟุตบอลในอังกฤษเป็นแฟนคลับที่ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับทีมโปรดมากที่สุดในโลก
29% บอกแฟนฟุตบอลในทวีปอเมริกาใต้ ทุ่มเทให้กับทีมรักมากที่สุด
35% ของผู้จัดการทีม เห็นว่าสนามแอนฟิลด์ เป็นสนามฟุตบอลที่มีบรรยากาศตื่นเต้น เร้าใจ ซาบซึ้งใจมากที่สุดเมื่อพาทีมลงแข่งขัน
แฟนทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้รับการชื่นชมจากผู้จัดการทีมต่างๆ ว่าเวลาที่ทีมแมนฯ ยูเป็นทีมเยือน แฟนแมนฯ ยูส่งเสียงเชียร์ดังที่สุด รองลงมาคือแฟนๆ ของลิเวอร์พูล
สำหรับวิธีที่ดีที่สุดที่จะให้แฟนฟุตบอลต่างประเทศรู้สึกผูกพันกับทีมในพรีเมียร์ ลีก นั้น
ผู้จัดการทีม 36% เห็นว่าคือการที่ทีมเดินทางไปแข่งทัวร์ต่างประเทศช่วงปิดฤดูแข่งขัน
29% บอกการเซ็นสัญญาจ้างนักเตะต่างประเทศ จะทำให้แฟนฟุตบอลประเทศนั้นๆ ผูกพันกับทีม
พ่อแม่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการส่งเสริมความรักในกีฬาฟุตบอลให้กับลูกๆ
ผู้จัดการทีมจำนวน 70% ไปดูการแข่งขันฟุตบอลในสนามครั้งแรกในชีวิตกับพ่อแม่หรือคนใดคนหนึ่ง ส่วนที่เหลือไปกับญาติพี่น้อง
จากการศึกษาพบว่าที่ประเทศอังกฤษ ความรักทีมฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกของคนอังกฤษ เป็นสิ่งที่สืบทอดภายในครอบครัวตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย สืบต่อมายังรุ่นพ่อแม่ รุ่นลูก เพราะทีมส่วนใหญ่ในพรีเมียร์ ลีก มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปี และทีมในดวงใจนั้น มักจะเป็นทีมของเมืองที่ครอบครัวอาศัย
แต่สำหรับแฟนฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ที่อยู่นอกประเทศอังกฤษ การเลือกทีมใดให้เป็นทีมในดวงใจนั้นมักขึ้นอยู่กับผลงานการแข่งขันของทีมว่าได้แชมป์บ่อยครั้งขนาดไหน รองลงมาคือความชื่นชอบในตัวนักเตะ หรือตัวผู้จัดการทีม
สมัยปัจจุบัน เทคโนโลยีได้ช่วยขยายฐานแฟนพรีเมียร์ ลีก ให้มีอยู่ทั่วโลก
การถ่ายทอดสดการแข่งขันทางโทรทัศน์ และทางโซเชียลมีเดีย ช่วยให้แฟนๆ ฟุตบอลทั่วโลก รู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแม้จะอยู่คนละประเทศ
จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยวอร์ริคของประเทศอังกฤษ พบว่า แฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีกทั่วโลกที่ติดตามการแข่งขันทางโทรทัศน์เป็นประจำ จะมีความรักความผูกพันกับทีมฟุตบอลในดวงใจเท่ากับแฟนที่เข้าดูการแข่งขันในสนามจริง
ถามมูรินโญ่ว่าตั้งใจจะเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลอีกนานเท่าไหร่ มูรินโญ่ซึ่งอายุครบ 53 ปี
เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา บอกว่าคิดว่าตัวเองจะทำหน้าที่ผู้จัดการทีมได้จนถึงอายุ 70 กว่าๆ ตราบที่สุขภาพแข็งแรง! มูรินโญ่บอกงานผู้จัดการทีมเป็นงานที่ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ต่างจากการเป็นนักฟุตบอลที่ประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นนั้นต้องต่อสู้กับอายุที่มากขึ้นและสังขารที่เริ่มไม่อำนวย
แต่ผู้จัดการทีม อายุที่มากขึ้นไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่แต่อย่างใด
ยกเว้นเจ้าตัวจะหมดความกระหายที่จะเป็นเท่านั้นเอง