เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล กล่าวถึงประเด็นที่ถูกโจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือฝั่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วิจารณ์หลังเกม “แดงเดือด” ครั้งที่ 198 ว่า ลิเวอร์พูลเน้นเกมรับ จนทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอ 1-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2016-17 นัดที่ 21 ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 15 มกราคม ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เอาแต่โยนบอลยาวใส่ลิเวอร์พูลลูกเดียวเช่นกัน
แม้เกมดังกล่าว แมนฯ ยูไนเต็ด จะเป็นฝ่ายไล่ตีเสมอในช่วง 6 นาทีสุดท้าย จากลูกโหม่งของซลาตัน อิบราฮิโมวิช หลังโดนลิเวอร์พูลยิงนำไปก่อนตั้งแต่ 27 นาทีแรก จากจุดโทษของเจมส์ มิลเนอร์
แต่มูรินโญ่กลับมองว่า การที่ลูกทีมตัวเองครองบอลในเกมนี้ได้ถึง 55.2 เปอร์เซ็นต์, สัมผัสบอล 725 ครั้ง และจ่ายบอลอีก 491 ครั้ง ซึ่งสถิติ 2 อย่างหลังจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพรีเมียร์ลีกเหนือกว่าหงส์แดงถึง 100 กว่าครั้ง และเกือบ 100 ครั้งตามลำดับ เชื่อว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ตั้งใจเล่นเกมบุกในนัดนี้ ส่วนลิเวอร์พูลมาตั้งรับสถานเดียว
ส่งผลให้คล็อปป์ตอบโต้กลับไปว่า ลูกทีมของเขาต้องรับมือกับการที่แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นโยนบอลยาวอย่างเดียว ตั้งแต่ส่งมารูยาน เฟลไลนี่ นักเตะที่มีความสูงเกือบ 2 เมตรเท่าซลาตัน อิบราฮิโมวิช อีกหนึ่งแข้งปีศาจแดงลงมาในช่วง 14 นาทีสุดท้าย
นอกจากนี้ คล็อปป์ที่เคยคุมทีมฟุตบอลแพ้มูรินโญ่แค่ครั้งเดียว จากการพบกันทั้งหมด 7 ครั้งในทุกรายการ และคว้าชัยได้ถึง 3 ครั้ง สมัยเป็นกุนซือโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และมูรินโญ่เป็นกุนซือรีล มาดริด รวมทั้งคล็อปป์ย้ายมาเป็นกุนซือลิเวอร์พูล และมูรินโญ่ยังไม่โดนเชลซีไล่จากตำแหน่งผู้จัดการทีมเมื่อฤดูกาลก่อน ยังประหลาดใจอีกว่า
เวย์น รูนี่ย์ (กลาง) และเจมส์ มิลเนอร์ (ซ้าย / ภาพ Reuters)
ทำไมเวย์น รูนี่ย์ กองหน้ากัปตันทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง ถึงไม่โดนใบแดงจากไมเคิล โอลิเวอร์ ผู้ตัดสิน จากจังหวะที่ไปเหยียบหน้าแข้งมิลเนอร์แบบน่าเกลียดในนาทีที่ 70 อีกด้วย