เจริญศักดิ์ เปิดใจหวนติดทัพช้างศึกรอบเกือบปี ยันทุ่มเต็มที่รักษามาตรฐาน
“เท่ห์” เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ เปิดใจหลังมีโอกาสกลับมาติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่อีกครั้ง ชุดที่จะเดินทางไปอุ่นเครื่องกับทีมชาติญี่ปุ่น ในวันที่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ประกาศให้เป็นฟีฟ่า เดย์ สำหรับทวีปเอเชีย เพื่อให้แต่ละชาติสามารถเรียกตัวนักกีฬาจากสโมสรต้นสังกัด มาเข้าแคมป์เก็บตัวในการเตรียมทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 12 มกราคม-10 กุมภาพันธ์ 2567
เจริญศักดิ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจ เกือบปีพอดีที่ไม่มีชื่อกับทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่ผ่านมาพยายามทำงานหนักมาตลอด เพื่อโอกาสที่จะกลับมาติดทีมชาติไทยชุดใหญ่อีกครั้ง โดยมีโอกาสคุยกับโค้ชอิชิอิมาตลอด ตั้งแต่อยู่ สมุทปราการ ซิตี้ ด้วยกัน เรามีความสัมพันธ์อันดี ซึ่งตัวเองก็ให้ความเคารพ ทุกครั้งที่เจอกันโค้ชก็บอกว่า ให้ดูแลตัวเองให้ดี
“ตอนนี้โค้ชอิชิอิ เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี สำหรับผมแล้ว โค้ชอิชิอิเป็นคนตรงๆ และมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับทีมชาติไทยให้ดีขึ้น แน่นอนผมมุ่งมั่น และพยายามแสดงความดุดันในการเล่นทุกนัดที่ได้ลงสนาม และอยู่ในช่วงที่ฟิตสมบูรณ์มาก ขอบคุณโค้ชที่เดินทางมาชมเกมที่สนามเมืองทองและยังมั่นใจในตัวผม”
เจริญศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเกมอุ่นเครื่อง กับญี่ปุ่น เชื่อว่านักเตะไทยมีความกระหายอยากเล่น เพราะนี่เป็นเกมประวัติศาสตร์ ซึ่งเรารู้ดีว่าตอนนี้ ญี่ปุ่นเขาคือเบอร์หนึ่งของทวีปเอเชีย เขาได้ไปบอลโลก และเอาชนะทีมชาติสเปน รวมถึง เยอรมัน เป้าหมายส่วนตัว การกลับมาติดทีมชาติแล้วก็ต้องทำเต็มที่ ไม่ได้แค่หวังไปอุ่นเครื่องแล้วพอ เราต้องพยายามรักษามาตรฐานต่อเนื่อง เพราะโค้ชญี่ปุ่นต้องการคนที่มีมาตรฐาน หลักๆ ก็ต้องทำเต็มที่กับสโมสรก่อน และมีฟอร์มการเล่นที่ต่อเนื่อง
“ฝากแฟนบอลเป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทย ให้การสนับสนุนฟุตบอลบอลไทยก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ขอบคุณที่ยังศรัทธาในทีมชาติไทย ผมเชื่อว่าไม่ว่าใครจะติดทีมชาติก็ทำเต็มที่เสมอ เรายังมีโอกาสทั้งในเอเชี่ยน คัพ และฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก อยากให้แฟนบอลเป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทยทุกชุดต่อไปครับ ขอบคุณครับ” เจริญศักดิ์ กล่าวปิดท่าย
สำหรับ ทีมชาติไทย จะทำการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร กับทีมชาติญี่ปุ่น ที่สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงโตเกียว ในวันที่ 1 มกราคม 2567 เวลา 12.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 32
