ยูเซน โบลต์ ยอดลมกรดชาวจาเมกา ต้องสูญเสียเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 1 ใน 9 เหรียญที่ตัวเองเป็นเจ้าของอย่างน่าเสียดาย หลังจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) มีมติริบเหรียญทองวิ่งผลัด 4×100 เมตรชายของจาเมกา ในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อ 9 ปีที่แล้ว เนื่องจากผลการตรวจหาสารต้องห้ามซ้ำอีกครั้งพบว่า เนสต้า คาร์เตอร์ หนึ่งในเพื่อนร่วมทีมของโบลต์พบสารเมธิลเฮกซานามีนซึ่งเป็นหนึ่งในสารต้องห้าม โดยเมธิลเฮกซานามีนเป็นสารที่พบในยาแก้คัดจมูก แต่ปัจจุบันนิยมใช้ในอาหารเสริมเพื่อควบคุมน้ำหนัก
ผลจากการริบเหรียญดังกล่าวทำให้โบลต์พลาดสร้างประวัติศาสตร์คว้า 3 เหรียญทองวิ่งระยะสั้น (วิ่ง 100 เมตร, 200 เมตร, วิ่งผลัด 4×100 เมตร) จากโอลิมปิกเกมส์ 3 สมัย หรือ “ทริปเปิล-ทริปเปิล” ในทันที หลังจากโบลต์ประสบความสำเร็จในการป้องกันแชมป์ทั้ง 3 ประเภทดังกล่าวทั้งใน “ลอนดอนเกมส์” ที่อังกฤษ เมื่อปี 2012 และ “รีโอเกมส์” ที่บราซิล เมื่อปีที่แล้ว
ขณะที่ตรินิแดดแอนด์โตเบโกซึ่งคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันวิ่งผลัดที่ปักกิ่งเกมส์จะขยับขึ้นไปครองเหรียญทอง ส่วนญี่ปุ่นและบราซิลได้เหรียญเงินกับเหรียญทองแดงตามลำดับ
ทั้งนี้ หลังจบการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ที่นครรีโอเดจาเนโรเมื่อปีที่แล้ว ไอโอซีได้แจ้งข่าวกับโบลต์ว่ามีสิทธิโดนริบเหรียญเพราะผลตรวจโด๊ปของคาร์เตอร์ ซึ่งโบลต์กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าเศร้ามากๆ เพราะแต่ละคนต้องทุ่มเทเวลาฝึกซ้อมนานหลายปีเพื่อเป้าหมายในการคว้าเหรียญทอง แต่บางครั้งคนเราก็ต้องเผชิญกับเรื่องแบบนี้ และยินดีจะคืนเหรียญให้ สำหรับตนแล้วไม่มีปัญหาอะไร
นอกจากนี้ ไอโอซีแจ้งด้วยว่า ทาเทียน่า เลเบเดว่า นักกรีฑาหญิงชาวรัสเซีย เจ้าของเหรียญเงินเขย่งก้าวกระโดดจากโอลิมปิกเกมส์ 2008 ก็โดนริบเหรียญเพราะตรวจพบสารต้องห้ามในการตรวจซ้ำเช่นกัน
