อิปสวิชคัมแบ๊กพรีเมียร์ลีก แรงหนุนครั้งใหญ่ธุรกิจท้องถิ่น
การเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดของทีมสโมสรฟุตบอลในอังกฤษ นอกจากจะเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกที่แฟนบอลจำนวนมากสนใจแล้ว ความสุขของแฟนบอลทีมนั้นๆ เรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียนในเมืองก็ได้รับผลในเชิงบวกไปด้วย
สำหรับฟุตบอลลีกอาชีพของอังกฤษจะแบ่งเป็น 4 ดิวิชั่น เรียงจากสูงสุด พรีเมียร์ลีก, เดอะ แชมเปี้ยนชิพ, ลีกวัน, ลีกทู ใน 3 ลีกรองจะมีการเลื่อนชั้น 3 ทีม และตกชั้น 3 ทีมในแต่ละฤดูกาล ขณะที่พรีเมียร์ลีกจะมีทีมที่ตกชั้น 3 ฤดูกาล
การเลื่อนชั้น-ตกชั้นมีผลอย่างมากต่อเรื่องของรายได้ ยิ่งอยู่ในลีกที่สูงขึ้นเท่าไร ผลตอบแทนก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีกที่จะได้รับส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่มหาศาลมากๆ ทั้ง 20 สโมสรในลีกสูงสุดมีรายได้จากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในฤดูกาลปัจจุบัน ที่ 91.7 ล้านปอนด์(4,231 ล้านบาท) และจะยังมีรายได้เพิ่มเติมจากอันดับที่จบในลีก และจำนวนเกมที่มีการถ่ายทอดสดในประเทศอังกฤษด้วย ยังไม่นับรวมรายได้จากสปอนเซอร์ การขายสินค้าที่ระลึก และค่าบัตรเข้าชมเกม
ดังนั้นทีมที่ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกจึงได้รับผลกระทบทางการเงินอย่างมาก เพราะสูญเสียรายได้ไปอย่างมหาศาล
อิปสวิช ทาวน์ เป็นทีมที่ได้เลื่อนชั้นจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ขึ้นไปสู่พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 22 ปี ทั้งๆ ที่เมื่อ 2 ปีก่อน ทีมม้าขาวยังอยู่ในลีกวัน หรือดิวิชั่น3 แต่การมาคุมทีมของ คีแรน แม็คเคนน่า อดีตสต๊าฟโค้ชแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุค โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงจนทีมก้าวกระโดดเลื่อนชั้น 2 ดิวิชั่นใน 2 ฤดูกาลเลยทีเดียว
ถ้ามองในเรื่องรายรับของอิปสวิชในฤดูกาลหน้า จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด ที่เห็นได้ชัด คือ ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่ได้มากขึ้นหลายเท่าจากลีกรองนั่นเอง
การที่ทีมอยู่ในพรีเมียร์ลีกจะทำให้มีคนหลั่งไหลเข้ามาสู่เมืองมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นทีมเล็ก แต่เมื่อเจอกับทีมบิ๊กเนมอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็จะมีแฟนบอลคู่แข่งที่ตามมาเชียร์ทีม สร้างการจับจ่ายใช้เงินในเมืองเพิ่มขึ้น
เทอร์รี่ แบ๊กซ์เตอร์ ประธานกลุ่มย่านธุรกิจของเมืองอิปสวิชบอกว่า การเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นกับเมืองนี้ เพราะเรื่องของธุรกิจจะได้รับประโยชน์ตามมาอีกมากมาย จะมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของอิปสวิชหลายล้านปอนด์ ในช่วงฤดูกาลหน้า ซึ่งไบรท์ตันเป็นเมืองที่ได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้มาก่อนแล้ว หลังจากที่สโมสรไบรท์ตันเลื่อนชั้นไปสู่ลีกสูงสุด
ไบรท์ตันเลื่อนชั้นขึ้นพรีเมียร์ลีกได้ในฤดูกาล 2017-2018 และมีรายได้ในฤดูกาลนั้น 139 ล้านปอนด์(6,414 ล้านบาท) จากที่ฤดูกาลก่อนหน้านั้นอยู่ในลีกรอง มีรายได้ 29 ล้านปอนด์(1,338 ล้านบาท) เท่านั้น
ในส่วนของเมืองนั้น ตลอดฤดูกาล 2022-2023 การอยู่ในพรีเมียร์ลีกของสโมสรฟุตบอลประจำเมือง ทำให้เศรษฐกิจในท้องถิ่นมีเงินหมุนเวียนถึง 595 ล้านปอนด์(27,458 ล้านบาท) ยิ่งการที่ได้ไปเตะฟุตบอลสโมสรยุโรป ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 80 ล้านปอนด์(3,691 ล้านบาท)
สโมสรไบรท์ตันเคยรายงานสถิตินักท่องเที่ยวและรายได้ที่มาจากการฟุตบอลว่า ตลอดฤดูกาลที่ 2022-2023 มีแฟนบอลมาชมเกมเตะที่อเมริกัน เอ็กซ์เพรส สเตเดียม 600,000 คน ในจำนวนนั้นมีชาวต่างชาติ 54,000 คน มีคนที่ไม่ใช่คนท้องถิ่นมาใช้จ่ายถึง 26 ล้านปอนด์(1,200 ล้านบาท) ซึ่งทำให้ธุรกิจในไบรท์ตันเข้มแข็งขึ้นอย่างมาก
การจ้างงานของสโมสรก็มีพนักงานมากถึง 907 คน นับเป็นบริษัทที่มีการจ้างงานมากที่สุดของเมืองแล้ว
ย้อนกลับมาที่อิปสวิช คีแรน แม็กไกวร์ อาจารย์ด้านบัญชีจากมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล มองว่า การเลื่อนชั้นของอิปสวิชสร้างความแตกต่างและการเปลี่ยนแปลงของสโมสรได้อย่างมากมาย จากที่เคยได้รับค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด 1.5 ล้านปอนด์(69 ล้านบาท) เมื่อ 2 ปีก่อน แต่หลังจากนี้จะได้เงินนับ 100 ล้านปอนด์(ล้านบาท) จากพรีเมียร์ลีก รายได้จากสปอนเซอร์หน้าอกเสื้อแข่งจะต้องเพิ่มขึ้นจากเดิมไปเป็นไป 6-10 ล้านปอนด์(4,614 ล้านบาท) ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยรายได้ตรงส่วนนี้ของทีมในพรีเมียร์ลีก
ส่วนประโยชน์ที่มีต่อเมืองนั้น แม็กไกวร์ก็มองในแบบเดียวกับที่ไบรท์ตันเคยทำให้เห็นมาก่อนเช่นกัน
อย่าไรก็ตามการที่ทีมอยู่ในลีกรองมาเป็นระยะเวลานาน การปรับปรุงด้านต่างๆ ของสโมสรเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำให้ได้ตามมาตรฐานของพรีเมียร์ลีก
มาร์ก แอชตัน ซีอีโอของอิปสวิชก็ยอมรับว่า งานของอิปสวิชก่อนที่พรีเมียร์ลีกจะเปิฤดูกาลใหม่นั้นมีให้ทำเยอะมากๆ สนามซ้อมเพลย์ฟอร์ด โร้ด จะต้องมีการปรับปรุงใหญ่ทันที สนามพอร์ทแมน โร้ด ก็จะต้องยกระดับให้ได้มาตรฐาน มีการเพิ่มเทคโนโลยีโกลไลน์ รวมถึงวีเออาร์ นอกจากนั้นจะมีการเพิ่มความจุอีก 4,000 ที่นั่ง รวมแล้วต้องใช้งบประมาณถึง 22 ล้านปอนด์(1,012 ล้านบาท)
การเลื่อนชั้นสร้างความสุขมากมายให้กับทีมที่หายจากลีกสูงสุดไปนาน แต่ต้องไม่ลืมว่าการเอาตัวรอดให้อยู่ต่อในระยะยาวก็เป็นงานที่หนักหน่วง เนื่องจากหลายทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาก็ตกชั้นกลับไปในซีซั่นเดียว ทำให้ธุรกิจของเมืองสั่นคลอนไปด้วย
เรียกได้ว่าฝีมือของกุนซือ ฝีเท้าของนักเตะ ความสามารถในการบริหารทีมฟุตบอลของผู้บริหาร มีความสำคัญกับเมืองมากมายจริงๆ
