สิงโตสับสนของเซาธ์เกต เต็งแชมป์ที่ครบเครื่องในเรื่องมึนงง!
“สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ถูกยกเป็นทีมเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์ในศึกยูโร 2024 ไม่ว่าจะจากการประเมินของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ หรือบ่อนพนันถูกกฎหมาย เพราะชื่อชั้นนักเตะที่มี และผลงานโดยรวมของนักเตะแต่ละคนที่ทำได้ดีในช่วงที่ผ่านมา
ชื่อของ แฮร์รี่ เคน, จู๊ด เบลลิงแฮม, ฟิล โฟเด้น ในแนวรุก น่าจะทำให้ทีมสิงโตคำรามอันตรายมากพอที่จะเอาชนะคู่แข่งทุกทีมได้ ไม่นับรวมหน้าใหม่ที่โชว์ผลงานยอดเยี่ยมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และดาวรุ่งที่เปรี้ยงปร้างอย่างมากในฤดูกาลที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ไม่สามารถใช้ความเป็นซุปเปอร์สตาร์ของนักเตะมาการันตีแชมป์ได้ เพราะทุกปัจจัยต้อวมีความพร้อม โดยเฉพาะความครบเครื่องในทุกตำแหน่ง ทั้งตัวหลักและอะไหล่ที่จะมาทดแทนกันได้ในทุกสถานการณ์
แกเร็ธ เซาธ์เกต คุมทัพสิงโตำครามมาแล้ว 4 ทัวร์นาเมนต์ มีความใกล้เคียงจะเป็นแชมป์มากกว่าในอดีต เข้ารอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2018 เข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูโร 2020 ก่อนจะมาตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 อย่างไรก็ตามเมื่อยังไม่ได้แชมป์ ก็ไม่เรียกว่าประสบความสำเร็จ
ตลอดการทำงานกับทีมชาติอังกฤษ เซาธ์เกตมีการเปลี่ยนผ่านทีมของเขามาตลอด เขากล้าพอที่จะไม่เรียกซุปเปอร์สตาร์หรือกัปตันทีมชาติมาติดทีม ถ้านักเตะเหล่านั้นไม่มีความพร้อมหรือฟอร์มไม่ดี เวย์น รูนี่ย์ อดีตกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยเป็นกัปตันทีมชาติ หรือ โจ ฮาร์ท นายทวารที่เคยเหนียวหนึบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เคยโดนตัดชื่อมาแล้ว เช่นเดียวกับในยูโรหนนี้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ สองแกนหลักของทีมในหลายปีหลัง ก็ไม่มีชื่อไปลุยเยอรมนี รายแรกมีการเปลี่ยนแปลงทีม จากลิเวอร์พูลสู่อัล เอตติฟาก ต่อด้วยอาแจ็กซ์ ซึ่งต้นสังกัดไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดี ส่วนรายหลังมีปัญหาอาการเจ็บรบกวนมาตลอดในซีซั่นที่ผ่านมา
เซาธ์เกตถูกวิจารณ์ว่าเลือกนักเตะชุดสู้ศึกยูโรครั้งนี้แบบเน้นที่ฟอร์มการเล่นของแต่ละคนมากกว่าการทำให้นักเตะที่รู้ทางกันดีอยู่แล้วมาใช้ประสบการณ์ตรงนั้นเพื่อพาทีมคว้าแชมป์
ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เมื่อไม่มีแม็กไกวร์ ทำให้ จอห์น สโตนส์ น่าจะต้องยืนคู่กับ มาร์ค เกอี ปราการหลังหน้าใหม่จากคริสตัล พาเลซ ในแดนกลาง ดีแคลน ไรซ์ เป็นตัวหลัก แต่จะต้องลุ้นว่าเขาจะมีพาร์ทเนอร์เป็นใครบ้าง เพราะ ค็อบบี้ เมนู, อดัม วอร์ตัน ที่เพิ่งดังขึ้นมาไม่นาน และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ไม่ได้เล่นในแผงมิดฟิลด์เป็นหลักให้ลิเวอร์พูลนัก แต่ต้องมารับทำหน้าที่ในทีมชาติ
แบ๊กซ้ายก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่แฟนบอลกังวล เพราะเซาธ์เกตเลือก ลุก ชอว์ ที่เจ็บยาวจนไม่ได้เล่นให้แมนยูมาเกือบตลอดครึ่งฤดูกาลหลัง โดยให้เหตุผลว่าชอว์เป็นแบ๊กซ้ายธรรมชาติที่เล่นตัวจริงให้ทีมชาติมาตลอด เบน ชิลเวลล์ แบ๊กเชลซีที่เคยเบียดแย่งตำแหน่งในทีมชาติกับชอว์ ก็ไม่ได้สมบูรณ์พร้อมลงสนามต่อเนื่องมากพักใหญ่
ถ้าย้อนกลับไปในยุค 90 ช่วงที่เซาธ์เกตยังค้าแข้งอยู่ ยุคนั้นอังกฤษก็ขาดแบ๊กซ้ายฝีเท้าดีเช่นกัน ไม่ใช่แค่แบ๊ก แต่นักเตะเท้าซ้ายในตำแหน่งมิดฟิลด์ก็มีให้เลือกใช้งานน้อยเกินไป ซึ่งปัญหานี้วนกลับมาอีกครั้งในยุคปัจจุบัน
มีโอกาสที่จะได้เห็น คีแรน ทริปเปียร์ ต้องสลับไปยืนแบ๊กซ้ายก่อนในเกมแรกที่เจอกับเซอร์เบีย แล้วรอให้ชอว์ฟิตเต็มที่พร้อมลงเล่นเกมถัดไป แต่ทริปเปียร์เองก็ไม่ได้มีฤดูกาลที่ดีเท่าไรนักกับนิวคาสเซิล การจะสลับเขาไปทำหน้าที่ด้านซ้าย จะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีจริงๆ หรือไม่ คงต้องให้เกมในสนามเป็นตัวตัดสิน
ในทางกลับกัน แนวรุกมีดาวยิงเท้าซ้ายชั้นยอดอยู่ถึง 3 คน บูกาโย่ ซาก้า, โคล พาลเมอร์ และโฟเด้น แต่ทั้งสามคนจะถูกนำไปเล่นทางขวา เพื่อตัดเข้าซ้ายและลุ้นยิงประตู มากกว่าจะไปยืนทางซ้าย จริงๆ แล้วอังกฤษยังมีทางเลือกในตำแหน่งปีกหรือกองหน้าทางซ้ายอยู่ ทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ แจ็ค กรีลิช ทั้งคู่เล่นกราบซ้ายเป็นอาชีพและถนัดขา แต่ด้วยฟอร์มที่ดิ่งอย่างหนักในช่วง 12 เดือน พวกเขาจึงไม่ได้ร่วมทีมมาด้วย
ในยูโร 2024 เราอาจจะได้เห็นอังกฤษใช้แบ๊กขวาไปเล่นทางซ้าย ส่วนแบ๊กขวาอาชีพอีกคนต้องไปเป็นมิดฟิลด์ แนวรุกฝั่งขวาไปยืนทางซ้าย ซึ่งไม่รู้ว่าจะใช้คนให้ถูกกับงานหรือไม่
แต่นี่ก็เป็นแนวทางที่เซาธ์เกตเลือกแล้ว ถ้าไปไม่ถึงแชมป์ก็คงเข้าใจได้ไม่ยาก แต่ถ้าสิงโตคำรามฟาดแชมป์มาได้จริงๆ ก็คงต้องชื่นชมว่า เขาเพิ่มความสารพัดประโยชน์ให้กับนักเตะได้อย่างยอดเยี่ยม ต้นสังกัดนักเตะอาจจะได้ประโยชน์กับเรื่องนี้ในอนาคต
รอดูกันว่าจะลงเอยแบบไหน