“เดอะ ซัน” สื่อประเทศอังกฤษ แต่เผยแหล่งข่าววงในที่ใกล้ชิดลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะบาร์เซโลน่า ทีมดังประเทศสเปน ว่า ได้เรียกร้องให้บอร์ดบริหารสโมสรดึงเป๊ป กวาร์ดิโอล่า อดีตกุนซือ “บาร์ซ่า” ซึ่งปัจจุบันเป็นโค้ชให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกพรีเมียร์ลีก เมืองผู้ดี กลับมาคุมทีมในถิ่นคัมป์นูอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ เมสซี่เคยตกเป็นข่าวมีความสัมพันธ์ไม่ลงรอยกับหลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือคนปัจจุบันของทีม ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่ฝ่ายหลังย้ายจากเซลต้า บีโก้ มาคุมทัพ ถึงแม้เอ็นริเก้จะสามารถพาทีมคว้าแชมป์ถึง 3 รายการใหญ่ได้ทันทีก็ตาม
และการที่เมสซี่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นเบอร์ 1 โลกเวลานี้ ส่งผลให้เจ้าตัวใช้โอกาสที่ยังไม่ต่อสัญญาที่เหลืออยู่แค่ไม่ถึง 2 ปีกับบาร์เซโลน่า มาต่อรองให้ผู้บริหารระดับสูงของสโมสรเร่งเจรจาให้เป๊ปมาคุมทีมอีกครั้ง
เพราะนอกจากเป๊ปจะคุมบาร์ซ่าจนได้แชมป์ถึง 14 ครั้ง ภายในระยะเวลาแค่ 4 ปีแล้ว ยังเป็นคนเปิดโอกาสให้เมสซี่เป็นจอมทัพของทีมอย่างเต็มตัว หลังตัดสินใจให้ทีมขายโรนัลดินโญ่ ที่เป็นตัวหลักของทีมในแนวรุกให้เอซี มิลาน ในประเทศอิตาลี ฤดูกาล 2008-09 หรือปีแรกที่เป๊ปขึ้นมาคุมบาร์เซโลน่าชุดใหญ่
อีกทั้ง กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา วัย 29 ปี ที่อยู่กับบาร์ซ่ามาเกือบทั้งชีวิต หรือตั้งแต่ชุดเยาวชน และพาทีมชุดใหญ่คว้าแชมป์ถึง 28 ครั้ง ยังเผยสาเหตุที่ไม่อยากให้ต้นสังกัดต่อสัญญากับเอ็นริเก้ที่เหลืออยู่เพียงจบฤดูกาลนี้ และต้องการให้ดึงเป๊ปที่เคยคุมทีมระหว่างปี 2008-2012 กลับมาเป็นโค้ชบาร์เซโลน่า
หลุยส์ เอ็นริเก้ (แฟ้มภาพ AFP)
เพราะเมสซี่มองว่า เอ็นริเก้ได้สร้างปัญหาไว้หลายอย่างกับทีม และมีเพียงเป๊ปเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า เมสซี่ได้โทรศัพท์ชวนเป๊ปให้กลับมาที่บาร์ซ่าอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เป๊ปที่หยุดพักเป็นโค้ชฟุตบอล 1 ปีช่วงปี 2012-2013 และเป็นโค้ชให้บาเยิร์น มิวนิก ในประเทศเยอรมนี ระหว่างปี 2013-2016 เพิ่งย้ายมาเป็นโค้ชให้แมนฯ ซิตี้ ในอังกฤษฤดูกาลนี้แค่ปีแรกเท่านั้น
สำหรับผลงานล่าสุดในฤดูกาลนี้ของเอ็นริเก้ ปรากฏว่า แม้เจ้าตัวจะคุมบาร์เซโลน่าเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยในประเทศอย่างศึกโกปาเดลเรย์ สเปน ที่ทีมเป็นแชมป์เก่า 2 สมัยหลังสุด
แต่ผลงานในเกมลีกลาลีก้า สเปน อยู่อันดับ 2 ของตารางคะแนน และตามรีล มาดริด คู่แค้นตลอดกาล และจ่าฝูงเพียง 1 คะแนนก็จริง ทว่าแชมป์เก่า 2 ปีล่าสุดรายนี้ กลับแข่งมากกว่า ทีม “ราชันชุดขาว” ถึง 2 นัด โดยบาร์ซ่าแข่ง 22 นัด และรีล มาดริด แข่ง 20 นัด จากทั้งหมด 38 นัด
ส่วนฟุตบอลถ้วยอีกหนึ่งรายการใหญ่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็เพิ่งบุกพ่ายปารีส แซงต์แชร์แมง ทีมดังประเทศฝรั่งเศส แบบสกอร์ขาดลอย 0-4 ในเกมรอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก จนโอกาสเข้ารอบต่อไปเหลือน้อยมาก