กาลครั้งหนึ่ง ณ ปารีส : อาสา ลงทุน กำไรที่ใจ
ในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ นอกเหนือจากนักกีฬาไทยที่ลงทำการแข่งขันในสนาม เรายังได้เห็นคนไทยมีส่วนร่วมกับการแข่งขันในด้านอื่นอีกด้วย
นั่นก็คือ อาสาสมัคร ซึ่งเป็นบุคคลทั่วไปที่สมัครเข้ามาและมีส่วนร่วมกับโอลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ที่ช่วยให้การแข่งขันดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
ส่วนตัวนักข่าวได้เจอกับอาสาสมัครไทยหลายท่านที่มาทำงาน บางคนเป็นนักศึกษาที่มาศึกษาต่ออยู่ในยุโรปอยู่แล้ว ก็สมัครเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ ซึ่งทุกคนเวลาเห็นนักข่าวไทยจะดีใจอย่างมาก เพราะเหมือนได้เจอคนบ้านเดียวกันอย่างไงอย่างงั้น
แต่คนหนึ่งที่ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมมากๆ คือ “พี่ปุ๊ก” มนฑกานต์ นันทเสน เภสัชกรหญิงจากโรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่ง ที่เดินทางมาจากประเทศไทย เพื่อมาทำงานตรงนี้โดยเฉพาะ
พี่ปุ๊ก เล่าว่า ตอนแรกที่สมัครมานั้นคือสมัครพร้อมกับแฟน เพราะแฟนเป็นคนที่อยากมามาก แต่ปรากฏว่าเป็นตัวเองกลับได้รับคัดเลือกมาแทน แต่เมื่อได้รับเลือกแล้วก็พร้อมทำหน้าที่เพราะอยากจะมีส่วนร่วมกับกีฬาระดับโลกสักครั้ง
แน่นอนว่าการเป็นอาสาสมัคร ดูเหมือนจะเป็นงานที่ดี มีความสุขที่ได้พบเจอนักกีฬาระดับโลก แต่งานมันก็มีข้อห้ามหลายข้อสำคัญที่สุดคือห้ามเซลฟี่กับนักกีฬา เรียกว่าดูแต่ตามืออย่าต้องเท่านั้น
ไหนจะต้องรับมือกับผู้คนมากมายหลากหลาย ที่บางคนก็มาอย่างเป็นมิตรบ้าง แต่บางคนก็อาจจะต้องรับมือสักหน่อย
และสิ่งที่สำคัญเลย การเป็นอาสาสมัคร ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าอาสาเข้ามาทำด้วยตัวเอง ฉะนั้นไม่มีรายได้อะไรตอบกลับเท่านั้น นอกจากกระเป๋าหนึ่งใบที่ใส่ยูนิฟอร์ม ชุดต่างๆ เอาไว้ให้ นอกจากนั้นก็ต้องลงทุนเองหมด
พี่ปุ๊ก เล่าว่าส่วนตัวแล้วเสียเงิน 6-7 หลัก เพื่อได้มาทำหน้าที่ตรงนี้ คือต้องบอกว่าถ้าไม่รักจริงก็คงไม่มีใครกล้าลงทุนแบบนี้ด้วยเช่นกัน
ฉะนั้นต้องชื่นชมอาสาสมัครคนไทยทุกคนเลย ที่กล้าลงทุนมาทำหน้าที่ตรงนี้แม้ว่าจะไม่ได้รับเงินอะไรตอบแทนกลับมา
ทว่าสิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมาจริงๆ ก็คงจะเป็นประสบการณ์ชีวิตแบบที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้ว
เรียกว่าได้กำไรที่จิตใจก็แล้วกัน