ซุ่น หยาง น้ำตาร่วงหลังพ้นโทษแบนคืนสระในรอบ 4 ปี พร้อมซิวแชมป์

ซุ่น หยาง น้ำตาร่วงหลังพ้นโทษแบนคืนสระในรอบ 4 ปี พร้อมซิวแชมป์

ซุ่น หยาง อดีตนักว่ายน้ำทีมชาติจีนดีกรีแชมป์โลกและแชมป์โอลิมปิกเกมส์ กลับมาลงแข่งขันเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม หลังพักการแข่งขันไป 4 ปีเพราะติดโทษแบนจากการทำผิดกฎการใช้สารต้องห้าม

ซุ่น หยาง ลงแข่งขันฟรีสไตล์ 400 เมตร ชาย เป็นตัวแทนจังหวัดเจ้อเจียง บ้านเกิด ในศึกว่ายน้ำชิงแชมป์แห่งชาติจีนภาคฤดูร้อน ที่เมืองเหอเฟย ท่ามกลางความสนใจจากแฟนๆ และสื่อจำนวนมาก โดยเขาคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ

ภายหลังการแข่งขัน ฉลามหนุ่มวัย 32 ปี ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า การกลับมาครั้งนี้ต้องขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนของครอบครัว พวกเขาคือส่วนสำคัญที่ทำให้ตนยังคงยืนหยัดอยู่ได้จนถึงตอนนี้

ซุ่น หยาง โดนลงโทษเมื่อปี 2020 จากกรณีปฏิเสธที่จะให้เก็บตัวอย่างตรวจสารต้องห้าม จากเจ้าหน้าที่ที่ไปปรากฏตัวที่บ้านของเขาโดยไม่แจ้งล่วงหน้าก่อนหน้านั้น 2 ปี โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีเอกสารแสดงตัวที่น่าเชื่อถือพอ ขณะที่ฝั่งเจ้าหน้าที่อ้างว่าหนึ่งในทีมงานของซุ่น หยาง ทำลายหลอดเก็บเลือดตัวอย่างด้วยค้อนเพื่อไม่ให้พวกเขาเอาเลือดไปตรวจ

เดิมนั้น สหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (ฟีน่า) ตัดสินให้เขาไม่มีความผิดใดๆ แต่อีก 2 ปีถัดมา ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (ซีเอเอส) กลับคำตัดสิน ให้เขามีความผิดฐานไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยทีแรกเขาโดนลงโทษแบน 8 ปี ก่อนอุทธรณ์ผ่าน ได้ลดโทษเหลือ 4 ปี 3 เดือน

สำหรับการคืนสระครั้งนี้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวจีน โดยในเว็บบอร์ด เว่ยป๋อ แฟนกีฬาต่างเข้าไปโพสต์แสดงความยินดีที่เขากลับมาได้ หลังจากเผชิญกับความยากลำบากมา 4 ปี บางคนก็หวังจะเห็นเขากลับไปติดทีมชาติอีกครั้งเพื่อสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ในอีก 4 ปีข้างหน้า

ซุ่น หยาง กล่าวถึงโอลิมปิก “แอลเอ 2028” ว่า จะทุ่มสุดตัวเพื่อให้ได้ไปแข่งขันให้ได้ สำหรับผลงานการคืนสระครั้งแรก คิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่เพราะร้างสระไปนานถึง 4 ปี โดยแทบไม่ได้ซ้อมจริงจัง จึงรู้สึกว่ายังสนิมเกาะอยู่ ต้องกลับมาแข่งให้ถี่ขึ้น แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี และพอใจกับผลงาน

ทั้งนี้ ตามกฎใหม่ของวงการกีฬาจีน นักกีฬาที่เคยติดโทษแบนเกี่ยวกับสารต้องห้ามเกิน 1 ปี จะไม่มีสิทธิติดทีมชาติ จึงไม่ชัดเจนว่า ซุ่น หยาง จะได้รับการพิจารณากลับมาหรือไม่

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่