ศึกฟุตบอล “ลาลีก้า สเปน” ฤดูกาล 2016-17 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ มี 5 คู่ แต่มี 2 คู่ที่ 2 ทีมใหญ่อย่างรีล มาดริด จ่าฝูง และทีมอันดับ 3 บาร์เซโลน่าลงเล่น ปรากฏว่า “บาร์ซ่า” ที่แข่งก่อนทีม “ราชันชุดขาว” ไม่ถึง 3 ชั่วโมง แซงฝ่ายหลังขึ้นเป็นผู้นำของตารางคะแนนชั่วคราว หลังบุกเฉือนชนะ “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด 2-1
บาร์เซโลน่า แชมป์เก่า 2 สมัยหลังสุด และแชมป์สูงสุดอันดับ 2 ที่ 24 สมัย เล่นเกมลีกนัดที่ 24 และได้ประตูในเกมนี้จากราฟินญ่า นาที 64 และลิโอเนล เมสซี่ นาที 86 ส่วนแอตฯ มาดริด ได้จากดีเอโก้ โกดิน นาที 70 ส่งผลให้บาร์ซ่าเก็บเพิ่มอีก 3 แต้มรวมเป็น 54 แต้ม แซงรีล มาดริด ที่มี 52 แต้ม และแข่งน้อยกว่าในขณะนั้นถึง 2 นัด เป็นจ่าฝูงชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม รีล มาดริด ที่ลงแข่งเกมลีกนัดที่ 23 ไม่กี่ชั่วโมงถัดมา บุกแซงชนะบีญาร์รีล 3-2 ทวงตำแหน่งผู้นำคืนมาอย่างระทึก โดยทีมเยือนที่ร้างแชมป์ลาลีก้ามาตลอด 4 ปีหลังสุด ทั้งที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์สูงสุดตลอดกาล 32 สมัย ตกเป็นฝ่ายตามหลังเจ้าถิ่นถึง 0-2 ในช่วงต้นครึ่งหลังจากมานูเอล ตริเกรอส นาที 50 และเซดริค บากัมบู นาที 56
แต่ทีมราชันชุดขาวเอาคืนทีเดียว 3 ลูกรวด จากจังหวะที่อิสโก้ ซึ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาทันทีที่ทีมตามหลัง 2 ลูก เปิดบอลให้ดาเนียล การ์บาฆาล แบ๊กขวาโยนบอลมาให้แกเร็ธ เบล ที่เพิ่งหายเจ็บยาวกลับมาได้ไม่กี่นัดโหม่งตีไข่แตก 1-3 นาที 64
นักเตะรีล มาดริด ฉลองชัย หลังกลับมาแซงชนะบีญาร์รีล 3-2 (ภาพ AFP)
ก่อนรีล มาดริด ตามตีเสมอ 2-2 จากลูกจุดโทษปัญหา ที่โทนี่ โครส ยิงบอลอัดเข้าไปในกรอบเขตโทษบีญาร์รีล และวิกตอร์ รูอิซ กองหลังคู่แข่งสกัดบอลกระเด้งไปโดนแขนบรูโน่ โซเรียโน่ เพื่อนร่วมทีม และไม่มีนักเตะทีมเยือนอยู่บริเวณใกล้เคียงที่จะเล่นเป็นจังหวะต่อเนื่องได้ แต่เฆซุส กิล ผู้ตัดสินกลับเป่าเป็นจุดโทษของรีล มาดริด และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงเข้าไปในนาที 74
ส่วนประตูแซงชัยทีมราชันชุดขาวในช่วง 7 นาทีสุดท้าย มาจากการที่อิสโก้ไปแย่งบอลจากซามู กาสเตเญโฆ่ บริเวณกลางสนาม ก่อนบอลทะลักไปเข้าทางโครส ที่จ่ายต่อให้มาร์เซโล่ แบ๊กซ้าย ซึ่งเปิดให้อัลบาโร่ โมราต้า อีกหนึ่งตัวสำรองโขกบอลเข้าไป
ทำให้รีล มาดริด มี 55 แต้มจาก 23 นัด แซงบาร์เซโลน่าที่มี 54 แต้ม กลับไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง แถมยังแข่งน้อยกว่าอีกฝ่าย 1 นัด
จบเกม ซีเนอดีน ซีดาน อดีตตำนานนักเตะรีล มาดริด ที่ผันตัวเป็นกุนซือทีมชุดใหญ่กลางฤดูกาลก่อน และใช้เวลาไม่ถึง 5 เดือนในการคุมทีมราชันชุดขาวคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือรายการสโมสรยุโรปใหญ่สุดสมัยที่ 11 ยกย่อง 2 ตัวสำรองอย่างอิสโก้และโมราต้าว่า เป็นคนที่ลงมาเปลี่ยนเกมอย่างแท้จริง รวมทั้งยืนยันว่าชัยชนะในเกมนี้ เป็น 3 แต้มที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากอีกด้วย
