อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) คนใหม่ เตือนโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่าน “เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส” สื่อนครนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา ที่ตามมาสัมภาษณ์ถึงสำนักงานใหญ่ “ยูฟ่า” ที่เมืองนียง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า นโยบายทางการเมืองที่ทรัมป์ต้องการห้ามหลายชาติชาวมุสลิมเข้าประเทศ มีสิทธิทำให้สหรัฐอเมริกา อาจไม่ได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2026
ก่อนหน้านี้ อเมริกาเคยจัดฟุตบอลโลกครั้งเดียวในปี 1994 และเป็นตัวเต็งในการชิงตำแหน่งเจ้าภาพปี 2026 หรืออย่างน้อยก็น่าจะได้เป็นเจ้าภาพร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเม็กซิโก และแคนาดา ซึ่งการโหวตเลือกเจ้าภาพจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม ปี 2020 แต่หลังจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐอเมริกา อย่างเหนือความคาดหมาย และเซ็นคำสั่งห้ามพลเรือน 7 ประเทศมุสลิมอย่างอิหร่าน, อิรัก, ซีเรีย, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซูดาน และเยเมน เข้าประเทศสหรัฐอเมริกา
แม้การอนุมัติของทรัมป์จะถูกศาลแขวงนิวยอร์กมีคำสั่งระงับ ตามด้วยศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จนทรัมป์ไม่ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา แต่เจ้าตัวยังไม่เลิกความพยายาม และกำลังคิดหาวิธีอื่นในการห้ามคนมุสลิมเข้าประเทศ
ส่งผลให้เซเฟรินเชื่อว่า นโยบายห้ามชาติมุสลิมบางประเทศเข้าอเมริกา จะมีผลต่อการโหวตเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลกอย่างแน่นอน เพราะหากนักเตะบางชาติไม่สามารถเข้าประเทศนั้นๆ ด้วยเหตุผลทางการเมือง การแข่งขันฟุตบอลโลกก็ไม่สามารถจัดขึ้นที่นั่นได้ มันเป็นความจริงสำหรับอเมริกา และเป็นความจริงที่ประเทศอื่นๆ สามารถร่วมแข่งในฟุตบอลโลกได้เช่นกัน ไม่ต่างจากแฟนบอล หรือผู้สื่อข่าวที่ควรได้ร่วมศึกฟุตบอลโลก ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากประเทศอะไร
แต่เซเฟรินหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จนอเมริกาไม่ได้เป็นเจ้าภาพอีก 9 ปีข้างหน้า
โดยฟุตบอลโลก 2026 จะเป็นครั้งแรกที่มีถึง 48 ประเทศร่วมแข่งขัน หลังสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มีมติจากผลการโหวตเพิ่มทีมในรอบสุดท้ายจากเดิม 32 ทีม เป็น 48 ทีม เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา