สกู๊ปพิเศษ ‘เรือนจำเฉพาะทางกีฬา’ เพื่อคนอยากกลับตัวกลับใจ

หนึ่งในพันธกิจหลักของ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม อย่างที่ทราบกันดีนั้นการควบคุมผู้ต้องขังอย่างเป็นมืออาชีพ พร้อมกับบำบัด ฟื้นฟูและแก้ไขพฤตินิสัยของผู้ต้องขัง เพื่อเป้าหมายหลักสำคัญคือการคืนคนดีสู่สังคม

กอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้ความเห็นว่า หน้าที่ของทัณฑสถานวัยหนุ่มกลางนั้นคือการส่งคืนคนดีให้กับสังคม เมื่อออกไปแล้วจะต้องมีคุณภาพร่างกาย และคุณภาพชีวิตที่ดี ต้องมีการฝึกระเบียบวินัย พัฒนาจิตใจ โดยสิ่งที่มุ่งหวังคือผู้ต้องขัง 1 คน จะต้องมี 1 ทักษะ แล้วแต่ความต้องการของแต่ละคนเพื่อที่จะนำเอาไปใช้หลังจากพ้นโทษได้ ซึ่ง ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง นั้น มีผู้ต้องขัง “วัยหนุ่ม” ช่วงอายุตั้งแต่ 18-25 ปี ซึ่งตามกฎกระทรวงมหาดไทย ในมาตรา 58 แห่งพระราชบัณญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2479 ข้อ 51 นั้นบอกว่า นักโทษเด็ดขาดอายุต่ำกว่า 25 ปี นั้นให้คำนึงถึงการศึกษาและการอบรมเป็นพิเศษ จึงก่อเกิดให้เป็นนโยบายการจัดทำ “เรือนจำเฉพาะทาง” ขึ้นมา

ณรงค์ศักดิ์ สมพัศ ผู้อำนวยการทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง กล่าวว่า เรือนจำเฉพาะทางนั้นเกิดขึ้นเพื่อพัฒนาระบบและกระบวนการพัฒนานิสัยของผู้ต้องขังให้มีความเหมาะสมกับความต้องการของผู้ต้องขัง ดังนั้นที่นี่จึงได้ถูกก่อตั้งเป็น “เรือนจำเฉพาะทางด้านกีฬา” โดยได้รับความร่วมมือจาก ม.ศรีนครินทร์วิโรฒ วิทยาเขตองครักษ์ ดำเนินการจัดการเรียนการสอนในภาคทฤษฎีและปฏิบัติ 5 ชนิดกีฬาคือ มวยสากลสมัครเล่น, มวยไทยสมัครเล่น, ฟุตซอล, วอลเลย์บอล และเซปักตะกร้อ

แต่ถามว่าทำไมถึงต้องเป็นเรื่องกีฬานั้น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ในปัจจุบัน กีฬากำลังกลายเป็นอาชีพ ถ้าสามารถประสบความสำเร็จ สามารถเป็นคนที่มีชื่อเสียงได้ ก็จะช่วยหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวได้ เพราะในตอนนี้ไม่เพียงแต่อาชีพนักกีฬา แต่ผู้ฝึกสอน หรือส่วนที่เกี่ยวข้องกับกีฬาต่างๆ ล้วนเป็นอาชีพได้ทั้งสิ้น ซึ่งการจะเป็นนักกีฬาต้องฝึกฝนตั้งแต่ยังวัยรุ่น ทำให้ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลางจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการฝึกบุคคลเหล่านี้

Advertisement

ที่ผ่านมาเราได้เห็นผู้ต้องขัง ที่สามารถกลายเป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงมาแล้วหลายคน ไม่ว่าจะเป็น “เจ้าเพชร” อำนาจ รื่นเริง เจ้าของแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท สหพันธ์มวยนานาชาติ (ไอบีเอฟ) หรือ ศิริมงคล สิงห์มนัสศักดิ์ แชมป์โลก 3 รุ่น คนแรกของไทย รวมไปถึง “แซมซั่น ส.สิริพร” ศิริพร ทวีสุข แชมป์มวยสากลหญิงคนแรกของประเทศไทย

ศิริมงคล สิงห์มนัสศักดิ์ - "แซมซั่น ส.สิริพร" ศิริพร ทวีสุข
ศิริมงคล สิงห์มนัสศักดิ์ – “แซมซั่น ส.สิริพร” ศิริพร ทวีสุข

ศิริมงคล เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีแทนน้องๆ ทุกคนที่ได้รับโอกาสในการฝึกทักษะที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งที่นี่เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้ทำในสิ่งที่ชอบ ดังนั้นเมื่อมีอะไรให้ทำ ก็จะช่วยให้รู้สึกคลายเครียดไปได้ อีกทั้งเมื่อจบไปก็ยังสามารถนำไปใช้เป็นอาชีพให้กับตัวเองในอนาคตได้ด้วยเช่นกัน

“มันเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้กลับตัวอีกครั้ง เพราะในช่วงวัยรุ่นต้องยอมรับว่าเป็นช่วงที่ไปตามเพื่อนได้ง่าย และโอกาสกลับตัวมันยาก พอได้มาอยู่ตรงนี้จึงต้องคิดถึงครอบครัวให้มากขึ้น ซึ่งกีฬานั้นเป็นอาชีพที่สุจริต และช่วยเหลือครอบครัวได้”

Advertisement

ด้าน “โคบาล เพชรอาสิระ” สำรวย สุดสอาด ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในผู้ต้องขังที่เคยอยู่ในทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง เช่นกัน ก่อนจะได้รับการฝึกฝนทักษะมวยอาชีพ จนก้าวไปชกในเวที “แม็กซ์ มวยไทย” แล้วนั้น กล่าวว่า ในทัณฑสถานนั้นมีการสอนทั้งเรื่องธรรมมะ เรื่องกีฬา เปิดโอกาสให้กับนักโทษทุกคน ช่วยปรับปรุงจากเด็กที่เคยเกเร ได้รู้จักการใช้ความคิด ปรับปรุงตัวให้เป็นคนดี ซึ่งส่วนตัวนั้นมีความรู้ ชกมวยมาตั้งแต่ 9 ขวบ ทำให้เมื่อมีโอกาสจึงอยากฝึกฝนทางด้านนี้อีกครั้ง

สำหรับการเปิด “เรือนจำเฉพาะทางด้านกีฬา” เป็นครั้งแรกมีผู้ต้องขังให้ความสนใจถึง 200 คน จาก 5 ชนิดกีฬา ถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่มากไม่น้อยสำหรับการเรียนด้านกีฬาโดยเฉพาะ ซึ่งนายกอบเกียรติ เชื่อว่าถ้าหากทุกคนตั้งใจฝึกฝน และมีความมุมานะ จะสามารถประสบความสำเร็จได้ ไม่ต้องถึงกับเป็นแชมป์กีฬา แต่ขอเพียงนำไปประกอบอาชีพในอนาคตได้ก็พอ

สุดท้ายแล้วการสร้างเรือนจำเฉพาะทางกีฬาขึ้นมานั้น อาจจะไม่ได้ถึงกับสร้างนักกีฬาขึ้นมาประดับวงการได้เป็นจำนวนมากก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจได้คือคนเหล่านี้จะสามารถปรับตัว และกลับมาอยู่ในสังคม พร้อมกับมีอาชีพที่ตัวเองชื่นชอบได้อย่างแน่นอน

03

06

JAY_3173

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image