รอนนี่ โอซุลลิแวน และ “เหตุผล” ของ 146 แต้ม

England's Ronnie O'Sullivan reacts after winning the frame to win the match and beat England's Barry Hawkins (not pictured) in the Masters Snooker final at Alexandra Palace in north London on January 17, 2016. O'Sullivan overwhelmed Barry Hawkins 10-1 to win the final of the Masters snooker tournament at London's Alexandra Palace. AFP PHOTO / ADRIAN DENNIS / AFP / ADRIAN DENNIS

กลายเป็นประเด็นฮือฮาในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับนักสนุ้กเกอร์ที่มีอารมณ์ศิลปินมากพอๆ กับพรสวรรค์อย่าง “รอนนี่ โอซุลลิแวน” อดีตนักสอยคิวมือ 1 ของโลกชาวอังกฤษ

เหตุเกิดในการแข่งขันรายการ “เวลช์ โอเพ่น” ที่เวลส์ ขณะเจ้าของฉายา “เดอะ ร็อกเก็ต” ดวลกับ “แบร์รี่ พินเชส” ในรอบแรก โดยขึ้นนำพินเชส 3-1 เฟรม ต้องการอีกเฟรมเดียวเพื่อเข้าสู่รอบสอง

ช่วงกลางๆ เฟรม หลังจากลูกขาวไปลอยอยู่กลางโต๊ะ จนต้องใช้ฝีมือแทงหลายชิ่งเพื่อมาเก็บลูกดำ รอนนี่หันไปถามกรรมการว่าถ้าทำแม็กซิมัมเบรกได้จะมีเงินโบนัสให้เท่าไร หลังจากได้รับคำตอบว่า 10,000 ปอนด์ (520,000 บาท) รอนนี่ก็รับคำยิ้มๆ ก่อนจะโชว์ฝีมือบังคับลูกขาวมาเก็บดำเรียกเสียงปรบมือกึกก้อง

ระหว่างนั้นรอนนี่ก็แทงไปยิ้มไปอย่างรวดเร็วแม่นยำ พร้อมหันมาถามย้ำกับกรรมการอยู่เป็นระยะๆ เรื่องเงินโบนัสแม็กซิมัมเบรก กระทั่งเก็บแดง-ดำลงไปถึง 13 ชุด และส่งแดงลูกที่ 14 ลงหลุม รอนนี่ก็ทำให้หลายคนต้องอึ้งเมื่อเขาเลือกแทงลูกชมพูลงแทนที่จะเป็นลูกดำ

สรุปว่าไม้นั้นอดีตแชมป์โลก 5 สมัย ทำไป 146 คะแนน ขาดอีกแต้มจะเป็น “แม็กซิมัมเบรก”

ADVERTISMENT

เหตุการณ์นี้ชวนให้นึกถึงกรณีคล้ายๆ กันในการแข่งขัน “เวิลด์ โอเพ่น” ที่สกอตแลนด์ เมื่อปี 2010 โดยครั้งนั้น รอนนี่ก็หยุดเล่นกลางเฟรมเพื่อหันไปถามกรรมการว่าถ้าทำแม็กซิมัมเบรกได้จะได้เงินรางวัลเท่าใด พอได้รับคำตอบว่าไม่มีเงินรางวัล รอนนี่ก็แทงไปจนถึงลูกชมพูเป็น 140 แต้ม แล้วหยุดไว้แค่นั้น หันไปจับมือกับคู่แข่งโดยไม่ยอมตบดำลงหลุม จนกรรมการต้องบอกให้แทงนั่นแหละจึงเป็นแม็กซิมันเบรกหนที่ 10 ของเจ้าตัว

ภายหลังการแข่งขันที่เวลส์ รอนนี่ให้สัมภาษณ์สื่อแบบทีเล่นทีจริงว่า ที่ “จงใจ” ไม่แทงดำลงหลุมเพราะรู้สึกว่าการทำแต้มสูงสุด 147 แต้มในไม้เดียวนั้นเป็นเรื่องยาก รายการระดับนี้ควรจะให้รางวัลความสำเร็จดังกล่าวให้สมน้ำสมเนื้อกว่านี้

ไม่กี่ประโยคข้างต้นนำมาซึ่งเสียงวิจารณ์มากมาย

ทางหนึ่งซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่มองว่าเขา “หน้าเงิน” และ “เห็นแก่ตัว” เช่น “แบร์รี่ เฮิร์น” ประธานสนุ้กเกอร์โลก มองว่า รอนนี่ไม่ให้เกียรติผู้ชม และทำตัวเป็นซุป”ตาร์ที่คิดจะทำอะไรก็ได้โดยไม่สนใจใคร

หรือ “อาลี คาร์เตอร์” นักสนุ้กมืออันดับ 30 ของโลกซึ่งกำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งก็ออกมาปรารภว่า ถ้า “เดอะ ร็อกเก็ต” ไม่เห็นค่าของเงินก้อนนี้ อย่างน้อยก็น่าจะเก็บ 147 แต้ม แล้วเอาโบนัสที่ได้ไปบริจาคให้องค์กรการกุศลเสียดีกว่า

ขณะที่อีกฝั่งก็มองแบบไม่โลกสวยว่า รอนนี่จะทำอะไรก็เป็นสิทธิของเขา เพราะไม่ใช่ว่าเจ้าตัวทำผิดกติกา แกล้งแพ้ หรือทิ้งการแข่งขันเสียหน่อย

อีกทั้งการทำแม็กซิมัมเบรกในการแข่งขันอย่างเป็นทางการขณะถ่ายทอดสดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่ผ่านมารอนนี่อาจจะทำได้มากกว่าใครๆ ในโลก (รวม 13 ครั้ง) แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้อย่างใจนึก

ตัวอย่างชัดเจนคือ “เทพไชยา อุ่นหนู” หรือ” “เอฟ นครนายก”” นักสอยคิวชื่อดังของไทย ซึ่งพลาดเก็บดำลูกสุดท้ายจนอดทำแม็กซิมัมเบรกในศึก “ยูเค แชมเปี้ยนชิพ” พร้อมทำโบนัส 40,000 ปอนด์ (2 ล้านบาทเศษ) หลุดมือไปเมื่อปีที่แล้ว

และในเมื่อนี่เป็นกีฬาอาชีพ นักกีฬาบางคนไม่ได้เล่นเพื่ออุดมการณ์หรือชื่อเสียง เขาย่อมมีสิทธิเลือกทำในสิ่งที่ “คุ้มค่า” กับตัวเองที่สุด ไม่อย่างนั้นคงไม่มีกรณีนักฟุตบอลเซ็นสัญญากับทีมที่ให้ค่าตัวสูงๆ หรือนักเทนนิสไม่ยอมไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ (สมัยก่อน) เพราะไม่มีเงินรางวัลหรือคะแนนสะสมให้เก็บอย่างแน่นอน

ส่วนตัวรอนนี่เองก็ออกมาอธิบายการกระทำของตัวเองพร้อมแขวะคนที่โจมตีกลายๆ ว่า เขาก็แค่ “เอ็นเตอร์เทน” คนดูในแบบฉบับของตัวเองเท่านั้น เมื่อลงสนาม เขาจะพยายามเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด คงไม่มีเวลามาคิดเรื่องการกุศล เรื่องพ่อแม่ เรื่องลูก เรื่องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ หรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะถ้ามัวแต่คิดเรื่องพวกนี้คงเล่นไม่ออกกันพอดี

…สุดท้ายแล้ว 146 แต้มของ รอนนี่ โอซุลลิแวน จึงเป็นเรื่องมุมมองที่แตกต่าง แล้วแต่ใครจะมองอย่างไร

เพียงแต่ผู้สังเกตการณ์บางคนก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ว่าในช่วงเวลาที่วงการสนุ้กเกอร์กำลังเจอกับภาพลักษณ์ด้านลบอย่างการแบนสปอนเซอร์กลุ่มบุหรี่ การโดนสอบสวนเรื่องล็อกผลการแข่งขัน จนนำไปสู่การแบนอดีตมือ 5 ของโลก “สตีเฟ่น ลี” นานถึง 12 ปี

การล้อเล่นโดยเอาเรื่อง “เงิน” มาเป็นเหตุผลอย่างนี้ คงไม่ช่วยอะไรสักเท่าไร