อำนวย นั่งเก้าอี้นายก ส.กีฬาคนตาบอด สมัย 2 เร่งเตรียมทัพสู้ศึกอาเซียนพาราเกมส์
นายอำนวย กลิ่นอยู่ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทยต่ออีก 4 ปี พร้อมตั้งเป้าพัฒนาวงการกีฬาคนพิการต่ออย่างยั่งยืน
สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย (เอสเอบีที) จัดการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นายอำนวย กลิ่นอยู่ นายกสมาคมเป็นประธาน พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหาร และสมาชิกสามัญ 76 คน เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยวาระที่สำคัญของการประชุมคือ นายกสมาคม พร้อมคณะกรรมการบริหาร หมดวาระ ทำให้ต้องตั้งมีการจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมใหม่
ในการเสนอชื่อนายกสมาคมกีฬาคนตาบอดฯ นายบุญยัง เสาจันทร์ สมาชิกหมายเลข 010 ได้เสนอ นายอำนวย กลิ่นอยู่ เพียงคนเดียว และในที่ประชุมสมาชิก 100 เปอร์เซ็นต์ไว้ใจ ยกมือรับรองให้ดำรงตำแหน่งอีก 1 สมัยแบบเอกฉันท์ ซึ่งเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน วาระ 4 ปี ช่วงระหว่างปี 2568-2571
นายอำนวย กลิ่นอยู่ นายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย ขอบคุณสมาชิกทุกคนที่เชื่อมั่นในการบริหารของตน ส่วนนโยบายเร่งด่วน คือการเตรียมนักกีฬาภายใต้การดูแลของสมาคมให้พร้อมที่สุด สำหรับสู้ศึกอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงต้นปีหน้าที่จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2569
นอกจากนี้ สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย ยังมีแผนงานจัดสร้าง “สปอร์ต คอมเพล็กซ์” ศูนย์กีฬาสำหรับคนพิการทางสายตา และผู้มีความบกพร่องทางร่างกายในทุกด้าน ให้มีมาตรฐานในระดับนานาชาติ โดยเช่าที่ดิน 20 ไร่ ของกรมธนารักษ์ ย่านบางปู จ.สมุทรปราการ เป็นเวลา 30 ปี เพื่อจัดสร้างสำหรับคนพิการและผู้ที่มีความบกพร่องทางร่าง รวมถึงผู้พิการทุกคน โดยตั้งงบประมานไว้ที่ 200 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการระดมทุน และจะดำเนินการเริ่มสร้างเฟสแรกภายใน 4 ปี
สำหรับผลงานที่ผ่านมาสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กวาดมาได้ทั้งหมด 54 เหรียญ 23 เหรียญทอง 19 เหรียญเงิน และ 12 เหรียญทองแดง ขณะที่ เอเชี่ยนพาราเกมส์ 2022 ที่นครหางโจว ประเทศจีน คว้ามาทั้งหมด 7 เหรียญ 3 เหรียญทอง และ 4 เหรียญทองแดง
ส่วนในการแข่งขันพาราลิมปิก 2024 ปารีส ประเทศฝรั่งเศส แม้ไม่สามารถคว้าเหรียญได้สำเร็จ แต่ทีมกีฬาคนตาบอดไทยสามารถพัฒนาสร้างโอกาส ขยับใกล้การคว้าเหรียญได้มากกว่าทุกครั้ง อีกที้งคว้าสิทธิเข้าแข่งขันได้ในชนิดกีฬากรีฑา 3 คน, ยูโด 1 คน และจักรยาน 1 คน