ความคืบหน้าตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ของทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย หลังจากที่ “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ประกาศยุติบทบาทการทำหน้าที่เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กำลังพิจารณาหาตัวกุนซือคนใหม่อยู่นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 เมษายน “วินนี่” วินฟรีด เชเฟอร์ อดีตกุนซือทีมชาติไทย ชาวเยอรมนี รวมทั้ง “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย รุ่นไม่เกิน 23 ปี ชุดแชมป์ซีเกมส์ 2015 ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ของ “พยัคฆ์ล้านนา” เชียงใหม่ เอฟซี ทีมในศึกเอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ ได้เดินทางเข้าพบ และพูดคุยกับ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่ทำการสมาคม การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก
ภายหลังการพูดคุย วินนี่เปิดเผยว่า เป็นการพูดคุยครั้งแรกกับนายกสมาคม โดยเขาเป็นคนรักฟุตบอล และต้องการเห็นวงการฟุตบอลไทยพัฒนาขึ้นซึ่งก็เหมือนสิ่งที่ตัวเองต้องการ ส่วนโอกาสในการกลับมาคุมทีมชาติไทยนั้น ไม่รู้ แต่ได้บอกนายกสมาคมไปว่าจะต้องทำอะไรเพื่อทำให้ทีมชาติไทยประสบความสำเร็จ ซึ่งนักเตะเยาวชนเป็นสิ่งสำคัญในความสำเร็จ บอกไม่ได้ว่าจะได้หรือไม่ได้ แต่คิดว่าเราสองคนคิดเหมือนกัน เพื่อต้องการให้ฟุตบอลไทยดีขึ้น ทั้งชุดยู-23, ยู-21 และยู-18 แต่คงต้องใช้เวลาอีกน่าจะ 5 ปี โดยนายกสมาคมต้องอ่านคอนเซ็ปต์ของตัวเองก่อน จากนั้นค่อยมาคุยกันอีกที
ขณะที่โค้ชโชคทวีกล่าวว่า นายกสมาคมได้เชิญให้เข้ามาพบ ซึ่งก็รู้สึกดีใจที่ได้เจอกันเป็นครั้งแรก โดยในแนวทางหนึ่งนายกสมาคมบอกว่าอยากร่วมงานไหม ซึ่งก็ตอบว่าอยากช่วยอยู่แล้ว เพราะทีมชาติไทยใครก็รักอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เพิ่งเซ็นสัญญาคุมทีมเชียงใหม่แล้ว ฉะนั้น ก็ทำหน้าที่ตรงนี้ก่อน แต่หากได้รับหน้าที่ให้เป็นผู้ช่วยโค้ชในเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก 3 นัดที่เหลือก็พร้อมทำหน้าที่ เพียงแค่ต้องดูทางสโมสรก่อน และขึ้นอยู่ที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันอย่างไร
ด้าน พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ยังไม่ได้พิจารณาใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนกรณีที่มีกระแสว่าจะดัน “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ เฮดโค้ชทีมชาติไทย รุ่นไม่เกิน 23 ปี ขึ้นขัดตาทัพทีมชุดใหญ่นั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะโค้ชโย่งก็รับงานคุมทีม 23 ปีที่สมาคมเป็นผู้จ้าง ดังนั้น ถ้าในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก 3 นัดที่เหลือจะใช้โค้ชคนไทยก่อนจะหาโค้ชต่างชาติพาทีมไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี ด้าน “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล จะยังทำหน้าที่ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคต่อไป และคงไม่ได้ขยับมาเป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทยตามที่เป็นกระแส ซึ่งตัวเองต้องการหาโค้ชทีมชุดใหญ่ที่ทำงานฟูลไทม์ และสามารถเข้ามานั่งโต๊ะทำงานที่สมาคม 5 วันต่อ 1 สัปดาห์ได้
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ได้มีการเสนอชื่อของ ฟิลิปป์ ทรุสซิเยร์ อดีตกุนซือทีมชาติญี่ปุ่น, กาตาร์, โมร็อกโก ชาวฝรั่งเศส เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกเฮดโค้ชคนใหม่ของทีมชาติไทย รวมทั้งยังมีชื่อของ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน เฮดโค้ชทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นอีกหนึ่งแคนดิเดตด้วย
