ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน 3 สมัยชาวอังกฤษของทีมเมอร์เซเดส ออกมากระตุ้นทีมงานให้ช่วยกันระดมสมองพัฒนาผลงานหากหวังจะสู้กับเฟอร์รารี่ในการลุ้นแชมป์โลกเอฟวันฤดูกาลนี้ หลังจากโดนเซบาสเตียน เว็ตเทล อดีตแชมป์โลก 4 สมัยของทีมม้าลำพอง แซงคว้าแชมป์สนามที่ 3 ของฤดูกาล ในรายการ “บาห์เรน กรังด์ปรีซ์” ที่ประเทศบาห์เรน เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา
สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เว็ตเทลซึ่งออกสตาร์ตในกริดที่ 3 แซงนำแฮมิลตันที่ออกสตาร์ตในอันดับ 2 ได้ตั้งแต่รอบแรก หลังจากนั้นเฟอร์รารี่วางแผนเรื่องเข้าพิทเปลี่ยนยางได้ดีกว่า ประกอบกับวัลต์เทรี่ บ็อตทาส อีกหนึ่งนักขับของเมอร์เซเดสซึ่งทำเวลาดีที่สุดในรอบคัดเลือก ไม่สามารถรักษาตำแหน่งของตัวเองเอาไว้ได้ และเมื่อเข้าพิทแล้วก็ไม่สามารถไล่ตามกดดันเว็ตเทลได้ จนทีมงานเมอร์เซเดสต้องปรับแผนให้แฮมิลตันเปลี่ยนมาไล่ตามแทน แต่แฮมิลตันไปทำพลาดชะลอรถเร็วเกินไปขณะจะเข้าพิทจนทำให้ดาเนียล ริคชาร์โด้ นักซิ่งของเรดบูลที่ตามมาเสียจังหวะ ส่งผลให้แฮมิลตันโดนลงโทษปรับเวลา 5 วินาที
สุดท้ายเว็ตเทลเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ทำเวลา 1 ชั่วโมง 33 นาที 53.373 วินาที ตามด้วยแฮมิลตัน ทำเวลาตามหลัง 6.660 วินาที และอันดับ 3 เป็นบ็อตทาส เป็นแชมป์สนามที่ 2 ของเว็ตเทลต่อจากรายการเปิดฤดูกาลที่ออสเตรเลีย มีคะแนนสะสม 68 คะแนน เหนือกว่าแฮมิลตัน 7 คะแนน
ภายหลังการแข่งขัน แฮมิลตันกล่าวว่า เมอร์เซเดสทำได้ดีทั้งในช่วงฝึกซ้อมและรอบคัดเลือก แต่พอถึงการแข่งขันจริงกลับมีปัญหา ผิดกับเฟอร์รารี่ซึ่งพอแข่งขันจริงเมื่อไรมักจะทำผลงานได้ดีมากๆ เป็นเรื่องที่อธิบายได้ยาก แต่ถ้าเมอร์เซเดสหวังจะคว้าแชมป์ให้ได้ก็ต้องพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งกว่านี้ เพราะเรื่องผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อาจตัดสินผลแพ้ชนะได้
อย่างไรก็ตาม แฮมิลตันได้กล่าวขอโทษทีมงานที่โดนลงโทษปรับเวลา 5 วินาที แต่ก็ออกตัวว่าต่อให้ไม่ถูกลงโทษก็ไม่รู้จะไล่ทันหรือเปล่า เพราะหลังจากเว็ตเทลขึ้นนำแล้วก็คอยรักษาจังหวะและระยะห่างได้ดีจนจบ
