ผู้ตรวจราชการ ก.ท่องเที่ยวและกีฬา แจงปมย้าย2ผอ.กรมพลศึกษา-ยัน’ปลัดพงษ์ภาณุ’มีอำนาจเต็มโยกย้าย

ตามที่นายนเร เหล่าวิชยา ประกาศลาออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมพลศึกษาอย่างกระทันหัน โดยได้ส่งข้อความไลน์ถึงข้าราชการกรมพลศึกษาระบุว่า ไม่พอใจการที่ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงนามแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักนันทนาการ (นางรุ่งอรุณ เขียวพุ่มพวง) กับผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากรการพลศึกษา (นายพัชระ ตั้งพานิช) สังกัดกรมพลศึกษา เมื่อวันที่ 12 เมษายน เป็นการไม่ให้เกียรติกัน เพราะไม่ใช่รายชื่อที่นายนเรเสนอชื่อไปก่อนหน้านี้ ขณะที่ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พยายายามยับยั้งไม่ให้นายนเรลาออกจากตำแหน่ง ส่วนนายพงษ์ภาณุยังไม่ได้มีการออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่อาคารสระว่ายน้ำวิสุธารมย์ ชั้น 1 บริเวณกรมพลศึกษา ดร.ปัญญา หาญลำยวง อดีตรองอธิบดีกรมพลศึกษา ในฐานะผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดแถลงข่าวว่า ไม่ทราบสาเหตุที่นายนเรตัดสินครั้งนี้ และยังไม่ได้พูดคุยกับนายนเร และนางกอบกาญจน์เลย แต่ได้ติดตามความคืบหน้าตลอด สำหรับกรณีที่นายพงษ์ภาณุยังไม่ได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ ตนไม่สามารถตอบได้ว่าทำไม และเป็นสิทธิ์ของท่านปลัดกระทรวงในการดำเนินการต่างๆ ส่วนกรณีการแต่งตั้งตำแหน่งผู้อำนวยการทั้ง 2 ตำแหน่งนั้น ตามระเบียบการโอนย้ายข้าราชการระดับ 9 มาเป็นผู้อำนวยการ สามารถทำได้โดยอำนาจเต็มของปลัดกระทรวง

“ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการวิ่งเต้น โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญหรือ ระดับ ซี 9 ที่สามารถย้ายมาได้ 3 คนมาพูดคุยแล้ว และมีเพียง นส.ชัชฎาพร พิทักษ์เสถียรกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่ไม่ต้องการโอนย้าย ทำให้ปลัดเลือกแต่งตั้งนางรุ่งอรุณ และนายพัชระ ตามระบบอาวุโส”

ดร.ปัญญากล่าวา ในรายของนางรุ่งอรุณมีความรู้เรื่องนันทนาการมาตลอด ขณะที่นายพัชระเป็นนิติกรเชี่ยวชาญที่น่าจะเข้ามาช่วยงานด้าน พ.ร.บ.ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน รวมทั้งงานสนามกีฬา และคุรุภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งทั้ง 2 คนถือเป็นลูกหม้อของกรมพลศึกษาอยู่แล้ว และ 2 ตำแหน่งนี้ว่างมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 59 จึงต้องแต่งตั้งโดยเร็ว และเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาในการทำงาน สำหรับนายนเรยอมรับว่าเป็นคนเก่งมีความรู้ความสามารถ ซึ่งเรื่องของการลาออกนั้น ตามระเบียบแล้วจะต้องยื่นลาออก 30 วัน และนายนเรได้ยื่นใบลาออกไปเมื่อวันที่ 18 เมษายน ซึ่งจะมีผลวันที่ 1 มิถุนายนนี้ อย่างไรก็ตาม สามารถยับยั้งการลาออกได้ไม่เกิน 90 วันหากได้รับการอนุมัติ แต่ก็เป็นสิทธิ์ของนายนเรว่าจะยืนยันการลาออกหรือไม่

Advertisement

“ผมต้องการให้กรมพลศึกษาเป็นองค์กรที่สร้างความสุขให้ประชาชน และแม้จะมีเรื่องนี้เกิดขึ้น แต่ไม่อยากให้นำมาเป็นอุปสรรค์ในการทำงาน และอยากให้คนในกรมพลศึกษารักกันและร่วมกันสร้างสรรค์องค์กร” อดีตรองอธิบดีกรมพลศึกษากล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image