‘ทนายโบ้’เดินหน้าส่งคำตัดสินศาลอุทธรณ์ไปยัง’ฟีฟ่า’ปลดล็อกโทษแบน’บังยี’5ปี

“ทนายโบ้” นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานฝ่ายกฏหมายสมัยที่ “บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ตั้งโต๊ะเปิดแถลงข่าวชี้แจงในกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำตัดสินของศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งได้ตัดสินให้นายวรวีร์ และนายองอาจ ก่อสินค้า มีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารในการจัดประชุมใหญ่เลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2556 และต้องโทษจำคุก 2 ปี แต่ให้รอลงอาญา จากการยื่นฟ้องของบริษัท สโมสรฟุตบอลพัทยา จำกัด ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน เมื่อวันที่ 21 เมษายน

นายนรินท์พงศ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 เมษายน ศาลอุทธรณ์ได้ยกฟ้องคำตัดสินของศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยระบุว่าการแก้ไขข้อบังคับสมาคมในเรื่องสมาชิก และองค์ประชุมนั้น ดำเนินการตามคำแนะนำของกรมการปกครอง ทำให้วันนี้เป็นการคืนความเป็นธรรมให้กับนายวรวีร์กลายเป็นผู้บริสุทธ์ หลังจากนี้ก็จะไปขอหนังสือรับรองคดีถึงที่สุดจากศาลภายใน 1 เดือน และจะแปลส่งไปให้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เพื่อให้มีความเห็นในเงื่อนไขที่ฟีฟ่าจำกัดสิทธิ์ลงโทษแบนนายวรวีร์ห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอล 5 ปี

“จากการโต้ตอบไปมากับฟีฟ่าระบุว่าเหตุที่ท่านวรวีร์โดนแบนเป็นเรื่องความผิดด้านจริยธรรมก็คือคำตัดสินของศาลไทยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งจากนี้จะเดินหน้าปลดล็อกเรื่องนี้ที่ทำให้ท่านวรวีร์โดนแบน หากกระบวนการของฟีฟ่ายังเห็นต่างเราก็คงต้องไปถึงศาลกีฬาโลก โดยตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ต่อสู้มาเราได้โต้ตอบกับฟีฟ่ามาตลอดว่าหากมีการตัดสินเช่นนี้อาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียได้ เราจึงเตรียมดำเนินการกับทนายที่สวิสเซอร์แลนด์เพื่อฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากฟีฟ่าด้วย”ทนายโบ้กล่าว

นายนรินท์พงศ์กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่หากนายวรวีร์ได้รับยกเลิกโทษแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลแล้วจะกลับมาสู่วงการฟุตบอลไทยหรือไม่นั้น ตอนนี้นายวรวีร์ยังไม่ประสงค์ที่จะกลับมา เพราะอยากให้คณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลฯชุดปัจจุบันได้ทำหน้าที่อย่างเต็มรูปแบบไปก่อน อีกทั้งตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านนายวรวีร์มีความเจ็บปวดอย่างมาก ทำให้ยังไม่พร้อม และยังไม่มีกำลังใจที่จะกลับมาทำฟุตบอลอีกครั้งในตอนนี้

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image