ไม่พลิกโผ!ส.บอลเซ็นสัญญาตั้ง’ราเยวัช’คุม’ช้างศึก’ตามคาด-สัญญา1ปีพร้อมต่อ-‘เฮงซัง’ชี้เลือกเพราะวิสัยทัศน์

เมื่อวันที่ 26 เมษายน ณ ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ หัวหมาก “โค้ชเฮง” นายวิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และนายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการและโฆษกสมาคม ร่วมกันแถลงประกาศแต่งตั้งมิโลวาน ราเยวัช โค้ชชาวเซอร์เบีย เป็นกุนซือทัพ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่อย่างเป็นทางการ ด้วยสัญญา 1 ปี พร้อมต่อเพิ่มอีก 1 ปีตามผลงาน และจะเดินทางพร้อมด้วยทีมงานอีก 3 คน ประกอบด้วย เนบอยซา สตาเมนโควิช (ฟิตเนสโค้ช), ซาซ่า โทดิช (โค้ชผู้รักษาประตู) และโซรัน ยานโควิช (ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน) มาเริ่มงานที่ประเทศไทย ในวันที่ 4 พฤษภาคม

“โค้ชเฮง” กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณโค้ชทุกคนที่สนใจยื่นใบสมัครเข้ามา ซึ่งการที่สมาคมเลือกราเยวัชเพราะเรื่องของวิสัยทัศน์ และมีความคุ้นเคยกับฟุตบอลเอเชียเป็นอย่างดี ส่วนสต๊าฟโค้ชซึ่งเป็นทีมงานนั้นมีความสามารถดีกว่าทุกคนที่เสนอเข้ามา รู้จักจุดแข็งจุดอ่อนของฟุตบอลไทยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ราเยวัชเป็น 1 ใน 2 คนที่เข้าไปดูฟุตบอลไทยในสนามตั้งแต่ยังไม่ถูกรับเลือกให้ทำงาน จึงทำให้เห็นถึงความตั้งใจของเขาที่อยากทำงานนี้จริงๆ

“ราเยวัชเองมองเห็นปัญหาของทีมชาติไทย คือ ชอบเล่นเกมรุก แต่ไม่ชอบเล่นเกมรับ เสียบอลแผงหลังไม่รู้ต้องทำยังไง เขารู้ทฤษฎี เรื่องเหล่านี้เป็นปัญหาทางเทคนิคที่ตรงกับข้อมูลที่เรากำลังทำอยู่”

นายวิทยากล่าวต่อว่า สัญญาของราเยวัชนั้นจะเป็น 1 ปี พร้อมเพิ่มอีก 1 ปีตามผลงาน ส่วนค่าเหนื่อยนั้นก็ตามงบประมาณที่สมาคมรับได้ โดยเขาไม่ได้คิดถึงจำนวนเงิน คิดเพียงแต่ต้องการมาพิสูจน์ผลงานตัวเองกับทีมชาติไทยที่กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง และเป็นผลดีกับตัวเองในการยกระดับและสร้างชื่อเสียงด้วย

Advertisement

“ราเยวัชเป็นโค้ชที่มีจิตวิทยาสูง ผู้เล่นที่เล่นให้เขา ยอมตายในสนามได้ เป็นสิ่งที่เขามีจิตวิทยา แนวทางการเล่นของเขา ไม่ใช่แค่เอาชนะคู่ต่อสู้ แต่ยังตื่นตาตื่นใจด้วย เป็นสิ่งที่เราต้องการ และนักเตะทีมชาติไทยชุดต่อไป เราจะแปลกใจกับนักเตะหลายๆ คนที่เลือกเข้ามา เพราะการที่เขาไปชมฟุตบอลไทยมาระยะหนึ่งแล้ว เขาเห็นนักเตะไทยหลายคนที่มีความสามารถมาก แต่ไม่เคยติดทีมชาติไทยเลย เป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับนักเตะด้วย ส่วนเรื่องสไตล์การเล่น เป็นคอนเซ็ปต์ที่เราจะให้เขา เขาต้องทำตามคอนเซ็ปต์บอลไทยด้วย ผมเชื่อว่าเขาเข้าใจตรงนี้ แนวทางการเล่นต้องมาก่อน” ปธ.เทคนิคกล่าวปิดท้าย

ด้านนายพาทิศกล่าวว่า ประเด็นเรื่องค่าเหนื่อยนั้นโค้ชไม่ได้มีการลดค่าเหนื่อยลงตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด เพราะสมาคมให้โอกาสในการเสนอค่าเหนื่อยอย่างเต็มที่ เพราะต้องการคนที่ดีที่สุด ซึ่งโค้ชแต่ละคนเสนอค่าเหนื่อยมาในระดับเดียวกันแทบทั้งสิ้น ทำให้ไม่มีผลต่อการตัดสินใจแต่อย่างใด

“ตอนนี้ราเยวัชก็เหมือนเริ่มงานแล้ว เขาได้ส่งรายชื่อเกมไทยลีกที่ต้องการเข้าไปดูในสนามให้กับสมาคม เพื่อจะได้เตรียมอำนวยความสะดวกให้ หลังจากนี้หน้าที่ของสมาคมที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนคือการแต่งตั้งผู้ช่วยโค้ชเข้าไปร่วมงานด้วยอีก 3 คน โดยขั้นแรกจะเลือกจากผู้ที่กำลังอบรมโปรไลเซนส์ ที่มีอายุน้อย สามารถมาเรียนรู้งานได้ และต้องทำงานแบบฟุลไทม์ เพราะช่วงแรกนั้นราเยวัชคงต้องการให้มีคนคอยช่วยเหลืออย่างเต็มที่” นายพาทิศกล่าว

Advertisement

โฆษกสมาคมกล่าวปิดท้ายว่า เป้าหมายแรกของสมาคมคือการขยับอันดับในฟีฟ่าแรงกิ้ง เพื่อเป็นการปูทางสู่เอเชี่ยนคัพ 2019 โดยทั้งแมตช์ฟุตบอลโลกอีก 3 นัดที่เหลือ รวมไปถึงอีก 12 เกมในปีหน้าจะต้องเริ่มวางแผนแล้ว ส่วนการประเมินนั้นฝ่ายเทคนิคจะเก็บข้อมูลและประเมิน 2 ครั้ง คือ เดือนธันวาคม 2560 และพฤษภาคม 2561 ถ้าหากว่าไม่ผ่านก็คงจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image