“กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สร้างประวัติศาสตร์ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ ทำผลงานในกลุ่มอี ผ่าน 5 นัด ชนะ 3 เสมอ 2 มี 11 แต้ม นำจ่าฝูง จูงมือ คาชิมา แอนท์เลอร์ส แชมป์เจลีก ญี่ปุ่น ที่มี 9 แต้มเข้ารอบด้วย โดยเกมสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม วันที่ 10 พฤษภาคม เมืองทอง ออกไปเยือน คาชิมา แอนท์เลอร์ส เพื่อแย่งแชมป์กลุ่ม
สำหรับรอบ 16 ทีมสุดท้าย จะไขว้ไปเจอกับกลุ่มจี ซึ่งมีลุ้นอยู่ 3 ทีม คือ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ จากจีน, ซูวอน ซัมซุง บลูวิงส์ จากเกาหลีใต้ และคาวาซากิ ฟรอนตาเล จากญี่ปุ่น แข่งวันที่ 23 กับ 30 พฤษภาคม ทีมรองแชมป์กลุ่มเป็นเจ้าบ้านก่อน
ส่วนเรื่องเงินรางวัลนั้น จากผลงาน 5 เกมแรก เมืองทอง ได้ไปแน่ๆ แล้ว 8.75 ล้านบาท มาจากโบนัสชนะนัดละ 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ(1.75 ล้านบาท) เสมอ นัดละ 1 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ(3.5 แสนบาท) และการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย 8 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ (2.8 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีค่าเดินทาง ในการเป็นทีมเยือน รอบนี้ได้นัดละ 3 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ (1.05 ล้านบาท) เงินรางวัลจะสะสมให้เรื่อยๆ หากได้แชมป์ จะรับเงินเกือบ 127 ล้านบาทเลยทีเดียว
ทั้งนี้ในเรื่องตัวผู้เล่น สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงได้เมื่อจบรอบ 16 ทีมสุดท้าย เพื่อลงเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทั้งนี้มีรายงานข่าวจาก เอสซีจี เมืองทอง ยืนยันว่าหาก กิเลนผยอง ไปไกลถึงรอบควอเตอร์ไฟนัล จะใส่ชื่อ เฮแบร์ตี้ เฟอร์นานเดส กองหน้าเลือดบราซิเลียน ที่เพิ่งซื้อมาเข้าสู่ทีมแน่นอน หลังจากส่งชื่อไม่ทันในชุดแรก โดยจะทดแทนคนใดคนหนึ่งในโควตานักเตะต่างชาติ 3+1 เอเชีย คือ เซลิโอ ซานโตส(บราซิล), นาโอกิ อาโอยามะ(ญี่ปุ่น), อีโฮ(เกาหลีใต้) และซิสโก ฆิมิเนซ(สเปน) เรื่องนี้ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน กุนซือใหญ่ จะพิจารณาอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม หากเมืองทอง เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย พวกเขาจะไม่มี “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักเตะคนสำคัญอยู่กับทีมแล้ว เพราะ ชนาธิป จะต้องไปร่วมทีม คอนซาโดเล ซัปโปโร ในเจลีก เดือนกรกฎาคมนี้ ตามสัญญายืมตัว แต่ศึกถ้วยใหญ่เอเชีย รอบ 8 ทีมจะฟาดแข้งระหว่างเดือนสิงหาคมถึงกันยายน ดังนั้นชนาธิปจะช่วยเมืองทอง ได้ถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น
