ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ที่แม้ไม่มีโทนี่ ปาร์กเกอร์ การ์ดตัวเก๋าวัยใกล้ครบ 35 ปีอีก 8 วันข้างหน้า ซึ่งเคยมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์บาสเกตบอลเอ็นบีเอถึง 4 จาก 5 สมัยในประวัติศาสตร์ทีม ที่เจ็บหนักช่วงที่เหลือของฤดูกาล ยังอาศัยความได้เปรียบเรื่องสนาม และเสียงเชียร์กับการเล่นในถิ่นเอทีแอนด์ที เซ็นเตอร์ ของตัวเอง เบียดชนะฮุสตัน ร็อคเกตส์ ช่วงต่อเวลาพิเศษ 110-107 เกมเพลย์ออฟรอบรองชนะเลิศสายตะวันตก เกมที่ 5 ที่เมืองซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม
ส่งผลให้สเปอร์สนำซีรีส์ระบบชนะ 4 จาก 7 เกมเป็น 3-2 เกม และต้องการชัยชนะเพียงนัดเดียวจะผ่านเข้ารอบชิงแชมป์สายครั้งแรกในรอบ 3 ปี หรือต่อจากการเข้าชิงแชมป์สาย 3 ฤดูกาลติด และได้แชมป์สายกับแชมป์เอ็นบีเอฤดูกาลหลังสุด 2013-14 แต่เกมหน้าต้องกลับไปเล่นที่สนามโตโยต้า เซ็นเตอร์ ของร็อคเกตส์วันที่ 11 พฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม สเปอร์สยังได้เปรียบอีกฝ่ายในกรณีถูกตีเสมอซีรีส์ในเกมหน้า เพราะทีมจะได้เล่นในบ้านตัวเองอีกครั้งกับเกมที่ 7 หรือเกมสุดท้ายวันที่ 14 พฤษภาคม เนื่องจากทีมมีสถิติฤดูกาลปกติเหนือกว่าร็อคเกตส์
ส่วนเกมนี้ แม้ไม่มีผู้เล่นสเปอร์สทำแต้มสูงสุดเกม หลังเจมส์ ฮาร์เดน การ์ดตัวเก่งร็อคเกตส์ทำคะแนนสูงสุด 30 แต้ม และ “ทริปเปิล-ดับเบิล” 10 รีบาวด์ กับ 10 แอสซิสต์ แต่มีผู้เล่นถึง 6 คนในทีมที่ทำแต้มเป็นเลข 2 หลัก ตั้งแต่คาวาย เลนนาร์ด 22 แต้ม, 15 รีบาวด์, แพ็ตตี้ มิลส์ 20 แต้ม, ลามาร์คัส อัลดริดจ์ 18 แต้ม 14 รีบาวด์, แดนนี่ กรีน 16 แต้ม, มานู จิโนบิลี่ 12 แต้ม และโจนาธาน ซิมมอนส์ 12 แต้ม
สำหรับทีมที่ผ่านเข้าไปรอในรอบชิงแชมป์สายตะวันตก เป็นแชมป์เก่าสาย และรองแชมป์ลีกอย่าง โกลเดนสเตท วอร์ริเออร์ส ซึ่งเป็นทีมที่มีสถิติฤดูกาลปกติดีสุดทั้งของสาย และของลีกกับการชนะ 67 แพ้ 15
