‘ซิโก้’เนื้อหอมทีมไทย-เทศจีบคุมทัพ ย้ำยังอยากพาบอลไทยไปบอลโลก

มร.โธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย พร้อมด้วย นายอานันท์ ปันยารชุน ทูตสันถวไมตรี องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ร่วมกันเป็นประธานแถลงข่าวแต่งตั้ง “Friends of UNICEF” ประจำประเทศไทย ที่โรงแรมสุโกศล ถ.พญาไท เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม

“Friends of UNICEF” ใหม่ทั้ง 4 คนประกอบด้วย “หนูดี” วนิษา เรซ, “พีช” พชร จิราธิวัฒน์, “ใหม่” ดาวิกา โฮร์เน และ “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย
นายอานันท์ กล่าวว่า ทั้ง 4 คนมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป เสียงของทั้ง 4 สามารถเข้าถึงคนได้กลายกลุ่ม เชื่อว่าจะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับชีวิตของเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือได้
ด้าน โค้ชซิโก้ กล่าวว่า ต้องขอบคุณยูนิเซฟที่เปิดโอกาสให้เข้ามาทำงานตรงนี้ เป็นการรณรงค์เพื่อให้โอกาสกับเด็กต่างๆ ที่เมืองไทยนั้นยังมีเด็กที่ขาดโอกาสอีกกว่า 2 ล้านคน ทั้งที่เป็นเด็กไทย หรือเด็กชนเผ่าต่างๆ

นอกจากนี้ซิโก้ กล่าวถึงชีวิตหลังจากที่ก้าวลงจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยว่า ฟุตบอลไทยจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป ทุกคนจะต้องช่วยกันพัฒนา ตอนนี้มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ก็ต้องดูว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนตอนนี้มีใครติดต่อทาบทามคุมทีมหรือไม่นั้น ก็มีเข้ามาบ้างจากทั้งในไทยลีก และต่างประเทศ แต่ตอนนี้รู้สึกอยากพัฒนาวงการฟุตบอลในประเทศไทยก่อน การที่ตนไปอบรมโปรไลเซนส์มาก็เพื่อการนำมาประกอบอาชีพ ตอนนี้ประเทศไทยต้องพัฒนาโค้ช, นักเตะขึ้นมา ทำอย่างไรให้กีฬาฟุตบอลในไทยยังเฟื่องฟู เพื่อเด็กที่กำลังจะก้าวขึ้นมาในอนาคต อยากจะสร้างศูนย์ฝึก เพื่อเปิดโอกาสให้กับเยาวชนไทยทุกคน อยากมีสนามฝึกซ้อมให้กับเด็กๆ และทำให้มันยั่งยืน มองว่าตนเข้ามาในวงการฟุตบอลแล้ว ก็คงจะทำงานเพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลไทยไปตลอดชีวิต

“เรื่องของการคุมทีมนั้นเป็นเรื่องอนาคต คงไม่สามารถบอกได้ อย่างไรก็ตามผมยังมีความฝันที่จะพาฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลกในรุ่นอายุใด อายุหนึ่งให้ได้อยู่ แต่ตอนนี้ขอเก็บเกี่ยวความรู้ก่อน เรื่องการประกาศรายชื่อของราเยวัชนั้น รายชื่อส่วนใหญ่เป็นรายชื่อที่เคยเรียกมาแล้วเกือบทั้งสิ้น ทั้งศิวรักษ์ เทศสูงเนิน หรือธีราเทพ วิโนทัย แต่นโยบายของตัวเองที่ผ่านมาคือต้องการเรียกนักเตะอายุ 20-22 ปี ขึ้นมา เพื่อสร้างนักเตะให้ใช้ได้ยาวเป็น 10 ปี จึงไม่ได้เรียกนักเตะที่อายุมากมา โค้ชแต่ละคนก็มีความคิดที่แตกต่างกัน ราเยวัชก็เป็นคนเฟรนลี่ ทำงานหนัก มีความทุ่มเท ไม่รู้จักนักเตะก็พยายามเข้าไปดูในสนามตลอด” อดีตกองหน้าจอมตีลังกากล่าวปิดท้าย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image