เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่สนามกอล์ฟ เกียรติธานี คันทรี คลับ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอน “ช้างศึก” ทีมชาติไทย และนายวัชร วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจ สถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี ร่วมกันแถลงข่าวความพร้อมของทีมชาติไทยในการลงเตะนัดอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ บุกเยือน อุซเบกิสถาน ที่บุนยอดกอร์ สเตเดียม กรุงทาชเคนต์ วันที่ 6 มิถุนายน เวลา 20.30 น. ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า สำหรับการเก็บตัวฝึกซ้อมของทีมชาติไทย เพื่อเตรียมลงเตะกับอุซเบกิสถานนั้น นักเตะไทยค่อยข้างสมบูรณ์เต็มที่ ซึ่งก็ได้บอกให้นักเตะพยายามเรียนรู้จากโค้ชราเยวัชให้มากที่สุด นอกจากนี้ ตัวเองได้สอบถาม “โค้ชเฮง” นายวิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคในเรื่องการฝึกซ้อมของราเยวัชว่าโอเคไหม โค้ชเฮงก็บอกว่าโอเค และเป็นไปตามแนวทางที่วางไว้ รวมทั้งยังได้สอบถาม “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนว่าราเยวัชโอเคไหม โค้ชโต่ยก็บอกว่าโอเค ซึ่งราเยวัชเขามีการเปลี่ยนแปลงการฝึกซ้อมถ่ายทอดให้กับนักเตะทุกวัน และมีความเข้มข้นขึ้นเรื่อย
“ถือว่าราเยวัชมีรูปแบบการซ้อมใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ราเยวัชบอกให้นักเตะผ่อนคลาย เพื่อให้แสดงฝีเท้าออกมาด้วยปฏิกิริยาธรรมชาติ ซึ่งราเยวัชเขาได้เข้าชมเกมไทยลีก และได้เห็นว่า นักเตะไทยมีจุดอ่อนในเกมรับคือ การเสียตำแหน่งจนเกิดช่องว่าง และเสียประตูง่าย ทำให้จะต้องปรับปรุงจุดนี้ และเปลี่ยนจากเกมรับโต้กลับเป็นเกมรุก ซึ่งจะทำให้มีโอกาสเสียประตูได้ยาก” บิ๊กอ๊อดกล่าว
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ส่วนแผนการเดินทางไปเตะกับอุซเบกิสถานนั้น จะเดินทางวันที่ 4 มิถุนายน และไปถึงคาซัคสถานในช่วงเย็นก่อนนอนพัก 1 คืน และวันที่ 5 มิถุนายนจะเดินทางเข้าอุซเบกิสถาน ลงเตะวันที่ 6 มิถุนายน และเดินทางกลับวันที่ 7 มิถุนายน ถึงไทยช่วงเช้าวันที่ 8 มิถุยายน
ขณะที่ ราเยวัชกล่าวว่า การเข้าแคมป์วันที่ 3 เป็นไปได้ด้วยดี ส่วนการตัดสินใจว่าจะนำนักเตะเมืองทองเดินทางไปอุซเบกิสถานด้วยหรือไม่นั้น ขอให้แข้งเมืองทองมาเข้าแคมป์ เพื่อวิเคราะห์ประมวลผลก่อนตัดสินใจตัดชื่อ 23 คนสุดท้าย วันที่ 3 มิถุนายน โดยการฝึกซ้อมได้พัฒนาแท็กติคเกมรับ และทุกคนทำได้ดี มีความเป็นมืออาชีพ มีความตั้งใจฝึกซ้อม และกระหายที่จะลงสนาม ส่วนแท็กติกในเกมกับอุซเบกิสถานยังไม่ขอเปิดเผย
กุนซือชาวเซอร์เบียกล่าวอีกว่า ทราบดีว่าเกมนัดแรกนี้มีความกดดัน และความคาดหวังจากแฟนบอลไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งการเริ่มต้นใหม่เป็นเรื่องยาก แต่จะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด และคงต้องมาติดตามกันว่าผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร
ด้านนายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการและโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในการจัดฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 45 นั้น ตอนนี้ได้ 3 ทีมครบแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผย เพราะต้องรอเอกสารยืนยัน แต่บอกว่าทุกทีมมีแรงกิ้งสูงกว่าที่ทีมไทยเคยเจอ ซึ่งเป็นทีมจากแอฟริกาใต้, อเมริกาใต้ และเอเชีย ยืนยันว่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่มีความยิ่งใหญ่แน่นอน ส่วนโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ 2 นักช่วงเดือนตุลาคมนี้ก็ได้วางแผนเตรียมหาทีมเอาไว้แล้วด้วย
