เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดงานอบรมผู้ควบคุมการแข่งขัน ที่ทำหน้าที่ในระดับ ยูโร่ เค้ก ลีก โปร (T3) และ ยูโร่ เค้ก ลีก (T4)
โดยพิธีเปิดมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธาน ร่วมกับ มร.เบนจามิน ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายคลับไลเซนซิ่งของสมาคมฯ และรองประธานฝ่ายบริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ประธานฝ่ายจัดการแข่งขันยูโร่ เค้ก ลีก โปร (ไทยลีก 3) และยูโร่ เค้ก ลีก (ไทยลีก 4)
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดงานอบรมผู้ควบคุมการแข่งขัน ระดับไทยลีก 3 และไทยลีก 4 (Match Comissioners Seminar 2017 for Thai League 3 & Thai League 4) วันนี้ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มาเข้าร่วมทบทวนความรู้เพื่อร่วมกันพัฒนาวงการฟุตบอลไทยของเรา”
“หนึ่งปีที่ผ่านมากับการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ผมเอง สภากรรมการ คณะผู้บริหาร มีเป้าหมายชัดเจน และลงมือทำตามนโยบายมาโดยตลอด คือ การพัฒนาบุคลากรในแต่ละด้านให้มีความรู้ ขณะเดียวกันก็พยายามสร้างบุคลากรสายเลือดใหม่ให้ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่เพื่อให้วันหนึ่งวงการฟุตบอลของเราจะได้มีบุคลากรมากเพียงพอต่อความต้องการ”
“การมีบุคลากรที่มีคุณภาพมากขึ้น คือสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้เกิดการแข่งขัน ทำให้ทุกคนต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา คนที่จะถูกคัดเลือกให้ไปทำหน้าที่ต้องไม่หยุดเสริมความรู้ ความสามารถของตัวเอง เพราะถ้าวันใดวันหนึ่งตัวท่านเอง หรือใครที่หยุดพัฒนา หยุดหาความรู้ใส่ตัว ท่านก็จะถูกลืมและหายไปจากสารบบ”
“วันนี้ ทุกๆ ท่านในที่นี้ ล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีประสิทธิภาพ และถือเป็นบุคลากรที่จะช่วยขับเคลื่อนให้วงการฟุตบอลไทยของเราเดินไปในทิศทางดี หน้าที่ของทุกๆ ท่าน ถือว่ามีความสำคัญ ในการทำหน้าที่ควบคุมการแข่งขัน”
“ผมทราบดีว่าทุกท่านต้องพบ ต้องเจอกับปัญหามากมายในแต่ละเกมการแข่งขันกับเลกแรกที่ผ่านมา ก็ขอให้ทุกท่านเปิดใจ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ช่วยกันสะท้อนปัญหา ช่วยกันคิด หาวิธีที่จะทำให้การดำเนินการจัดการแข่งขัน แล้วกำหนดเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน หากมีปัญหาหรือข้อขัดข้องใดๆ ผมอยู่ที่สมาคมฯ สามารถมาปรึกษาได้ตลอด ผมพร้อมรับฟัง”
“สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกๆ ท่านในที่นี้ พัฒนาความรู้ความสามารถ เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ ช่วยสร้างบรรทัดฐาน สร้างมาตรฐาน และความถูกต้อง ยุติธรรมให้กับวงการฟุตบอลไทยของเรา”
