โยอาคิม เลิฟ โค้ชเยอรมนี ยกย่องลูกทีม “อินทรีเหล็ก” เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม จนถล่ม “จังโก้” เม็กซิโก 4-1 ในฟุตบอลคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2017 รอบรองชนะเลิศ ที่เมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน และผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
โดยเลิฟซึ่งเป็นบุนเดสเทรนเนอร์คนแรกในรอบ 24 ปี ที่สามารถคุมเยอรมนีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 ตัดสินใจพักผู้เล่นชุดใหญ่เกือบทั้งหมดในรายการนี้ แต่ยังได้แชมป์กลุ่มบี ในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งที่มีทีมแกร่งอย่างชิลีร่วมสายอยู่ ได้ 4 ประตูในเกมนี้จากลีออน กอเร็ตซ์ก้า นาที 6, นาที 8, ติโม แวร์เนอร์ นาที 59 และอามิน ยูเนส ตัวสำรองช่วงทดเวลาเจ็บนาทีแรก
ติโม แวร์เนอร์ (ซ้าย), ลาร์ส สตินเดิล (กลาง) และลีออน กอเร็ตซ์ก้า (ภาพ AFP)
ส่วนเม็กซิโก แชมป์โซนคอนคาเคฟ 2015 ได้คืนจากมาร์โค ฟาเบียน ตัวสำรองนาที 89
จบเกม เยอรมนีถล่มเม็กซิโก 4-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบชิลี แชมป์โซนอเมริกาใต้ 2015 และทีมร่วมกลุ่มบีที่เคยเสมอกันมา 1-1 ในรอบแรก วันที่ 2 กรกฎาคม ขณะที่เม็กซิโกชิงอันดับ 3 กับโปรตุเกส แชมป์ยูโร 2016 วันเดียวกัน
ติโม แวร์เนอร์ ยิงเข้าไปง่ายๆ (ภาพ AFP)
ขณะที่เลิฟชมลูกทีมว่าเปิดเกมได้อย่างแข็งแกร่ง และยอดเยี่ยมตามแผนที่วางไว้ แม้เม็กซิโก้จะสร้างปัญหาอยู่บ้างก็ตาม และยืนยันว่าเยอรมนีมาได้ไกลกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มเสียอีก
อามิน ยูเนส (ซ้าย) ซัดปิดท้ายให้เยอรมนี (ภาพ AFP)
นอกจากนี้ เลิฟในวัย 57 ปี และรับตำแหน่งนายใหญ่ทีมเมืองเบียร์ตั้งแต่ปี 2006 ยังกล่าวถึงคู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศอีก 3 วันข้างหน้าว่า ชิลีเป็นทีมที่ทรงพลังที่สุดในรายการ และคิดว่าพวกเขาจะได้เข้าชิงอยู่แล้ว แน่นอนว่าชิลีจะต้องใส่หมดแม็กซ์ในเกมนัดชิงอย่างไม่ต้องสงสัย และเยอรมนีก็จะต้องตอบโต้กลับไปอย่างเต็มที่เหมือนกัน ซึ่งลูกทีมของตนรู้ดีว่ามีงานหนักรออยู่ข้างหน้า และพวกเขาก็มีความทะเยอทะยานมากพอในการเอาชนะชิลี
