ฟุตบอลไทยลีก ใกล้จะเข้า โค้งสุดท้าย อะไรที่เคยคิดว่าแน่ เริ่มจะดิ้นได้ ตอนแรกที่คาดว่า เมืองทอง นอนมาแหงๆ ตอนนี้ชักหวั่นใจแล้วครับ
กิเลนผยอง ตกมาเป็นที่ 2 โดน บุรีรัมย์ ทิ้ง 4 แต้ม ฟอร์มในสนาม ถ้าว่ากันตามตรงก็ต้องยอมรับว่า ตั้งแต่ เจ ชนาธิป ย้ายไปเล่นในญี่ปุ่น เมืองทองวูบไปเยอะ เล่นบอลช้าลง เกมบุกไม่จี๊ดเหมือนเมื่อก่อน กว่าจะชนะแต่ละนัด ลุ้นกันเหงื่อแตก
ยังดีที่กองหน้าตัวใหม่ เลอันโดร อัสซัมเซา ช่วยยิงให้แทบทุกเกม เปลี่ยนจากผลเสมอเป็นชนะได้อย่างเฉียดฉิว สถานการณ์ของทีมจึงไม่ถึงกับย่ำแย่เกินไป
แต่ถ้าจะกลับมาจริงๆ อาทิตย์นี้ เมืองทองต้องเอาชนะบุรีรัมย์ให้ได้ ห้ามแพ้ ห้ามเสมอ เด็ดขาด
ทั้ง 2 ทีม จะเปิดศึกบิ๊กแมตช์กันที่สนาม SCG สเตเดียม ดูจากเงื่อนไขแล้ว นี่คือเกมเมืองทอง-บุรีรัมย์ สำคัญที่สุดในรอบหลายปี
อย่าลืมว่า กิเลนผยองเป็นเต็ง 1 ขนาดทีมใหญ่สุดในเมืองไทย ลงทุนเยอะที่สุด ตุนนักเตะทีมชาติไทยไว้เกือบยกชุด แบกภาระเงินเดือนมหาศาล
เมืองทองจึงต้องเป็นแชมป์สถานเดียว ผิดจากนี้ถือว่า ล้มเหลว เสียหน้าอย่างแรง
ไม่เหมือนบุรีรัมย์ที่อยู่ในช่วงสร้างทีมใหม่ ปลดระวางตัวเก๋าอายุมาก เสริมดาวรุ่งสดซิงเข้ามาแทนหลายคน
ทีม ปราสาทสายฟ้า มีคนรุ่นใหม่แววดีอยู่เพียบ เด่นสุดคือ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ กับ กรกช วิริยอุดมศิริ ขณะที่แบ๊กซ้าย ศศลักษณ์ ไหประโคน อาจเปิดบอลสู้ ธีราธร บุญมาทัน ไม่ได้ แต่ก็ชดเลยด้วยความขยัน ความฟิต วิ่งไม่หยุด เติมเกมบุกไม่มีหมด
ช่วงต้นฤดูกาล บุรีรัมย์เล่นช้ากว่าเมืองมอง แต่ตอนนี้เมื่อเมืองทองช้าลงเอง ความได้เปรียบ เสียเปรียบ จึงหมดไป เรื่องคุณภาพรวมๆ ของนักเตะที่เมืองทองเหนือกว่า มันก็ไม่ถึงกับมีช่องว่างอะไรมากมาย เพราะพวกดาวรุ่งบุรีรัมย์เป็นเหมือน ผึ้งงาน ช่วยสนับสนุนการเล่นของ ดิโอโก้ นักเตะบราซิล ซึ่งเป็นเพลย์เมกเกอร์ที่แท้จริงซะมากกว่า
นัดล่าสุดที่ชนะ ท่าเรือ บุรีรัมย์พักดิโอโก้เพื่อให้สดที่สุด ในการเผชิญหน้ากับเมืองทอง แล้วที่ผ่านมา คู่นี้เจอกันเมื่อไหร่ หมอนี่ก็มักจะเป็นตัวแสบของกองหลังกิเลนทุกที
เมืองทอง ต้องหยุดดิโอโก้ ต้องทำทุกอย่างเพื่อชนะ ลดช่องว่างจาก 4 เหลือแค่ 1 ส่วนทีมเยือนนั้นโจทย์ง่ายกว่ามาก แค่บุกมาตื๊อยันเสมอก็สบายตัวแล้ว
โค้ช โบซิดาร์ บันโดวิช ของปราสาทสายฟ้า ถนัดทำทีมเล่นเอาแต้ม เก่งชนะแบบไม่เอาสวย ถ้าบุรีรัมย์รอดตัวจากสนาม SCG ไปได้ เมืองทองแซงยากแน่ๆ
