โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตมือ 1 โลก และแชมป์สูงสุดร่วม 7 สมัยจากสวิตเซอร์แลนด์ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเทนนิสแกรนด์สแลมคอร์ตหญ้า “วิมเบิลดัน 2017” เป็นครั้งที่ 12 ในชีวิตไม่พอ ยังมีสิทธิกลายเป็นแชมป์สูงสุดแต่เพียงผู้เดียวเป็นสมัยที่ 8 อีกด้วย หลังแอนดี้ เมอร์เรย์ มือ 1 โลก และแชมป์เก่า 2 สมัย รวมทั้งโนวัก โยโควิช อีกหนึ่งอดีตมือ 1 โลก และแชมป์ 3 สมัย พร้อมใจหยุดเส้นทางในรอบ 8 คนสุดท้าย ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม
โดย “เฟดเอ็กซ์” ซึ่งเป็นมือ 5 โลกปัจจุบัน แต่เป็นมือวางอันดับ 3 ของรายการไล่ต้อนมิลอส ราโอนิช มือ 7 โลก และมือวางอันดับ 6 จากแคนาดา ที่เพิ่งเอาชนะเจ้าตัวในรอบตัดเชือกรายการนี้ปีก่อน 6-4, 6-2, 7-6 (4) ส่งผลให้คุณพ่อลูก 4 แต่เป็นแฝดหญิง-ชาย วัยใกล้ครบ 36 ปีเต็มที่ลงเล่นในวิมเบิลดันเป็นแมตช์ที่ 100 รายนี้ เป็นแร็กเกตชายอายุมากสุดอันดับ 2 ที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศรายการนี้ต่อจากเคน รอสเวลล์ อดีตตำนานรุ่นปู่จากออสเตรเลีย วัย 82 ปี ที่เคยเข้ารอบรองชนะเลิศปี 1974 ขณะอายุ 39 ปี
แต่เจ้าของแชมป์สแลม 18 สมัยจะกลายเป็นนักหวดชายอายุมากสุดที่คว้าแชมป์วิมเบิลดันทันที ถ้าชนะในอีก 2 แมตช์ที่เหลือ
ส่วนแชมป์เก่าจากสกอตแลนด์อย่างเมอร์เรย์ กลับมาแพ้แซม เคอร์เรย์ มือ 28 โลก และมือวางอันดับ 24 จากสหรัฐอเมริกา 6-3, 4-6, 7-6 (4), 1-6, 1-6 โดยเมอร์เรย์ในวัย 30 ปียอมรับว่ายังมีอาการบาดเจ็บสะโพกที่ติดตัวมาก่อนหน้านี้ตลอดทัวร์นาเมนต์ ก่อนออกตัวว่าหากไม่เสียตำแหน่งมือ 1 โลกหลังศึกวิมเบิลดัน ก็คงเป็นสแลมหน้ายูเอส โอเพ่น
ด้านมือ 4 โลก และมือวางอันดับ 2 โยโควิชวัย 30 ปียอมแพ้ระหว่างแข่งกับโทมัส เบอร์ดิช มือ 15 โลก และมือวางอันดับ 11 จากสาธารณรัฐเช็ก ขณะสกอร์ตามหลัง 6-7 (2), 0-2 เนื่องจากอาการเจ็บข้อศอกขวาเดิมกำเริบ
นอกจากนี้ ราฟาเอล นาดาล อีกหนึ่งอดีตมือ 1 โลก และแชมป์ 2 สมัยจากสเปน ก็ตกรอบ 4 ไปก่อนหน้านี้แล้ว
ผลชายเดี่ยวรอบ 8 คน อีกคู่ มาริน ซิลิช (7-โครเอเชีย) ชนะ จิลส์ มุลเลอร์ (16-ลักเซมเบิร์ก) 3-6, 7-6 (6), 7-5, 5-7, 6-1
