‘ช้างศึก’ อัด ‘เกาหลีเหนือ’ 3-0 เข้าชิง ‘คิงส์คัพ’ ชน ‘เบลารุส’ 16ก.ค.

“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย แชมป์ 14 สมัย ประเดิมสนาม เอาชนะ “โสมแดง” เกาหลีเหนือ ทีมอันดับ 114 ของโลก 2-0 ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 45 ที่ราชมังคลากีฬาถาน เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม โดยจะผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ เบลารุส ในวันที่ 16 กรกฎาคม

เกมนี้ มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชาวเซอร์เบีย จัดทัพ 11 ผู้เล่นตัวจริงโดยยึดจากชุดที่เสมอกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก นำทีมโดย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เป็นผู้รักษาประตูและกัปตันทีม กองหลังจากขวาไปซ้าย อดิศร พรหมรักษ์, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พรรษา เหมวิบูลย์, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา กองกลางมี ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และสรรวัชญ์ เดชมิตร ทำเกมร่วมกัน ขณะที่แนวรุกซ้ายเป็นธีราทร บุญมาทัน แนวรุกขวา มงคล ทศไกร และอดิศักดิ์ ไกรษร เป็นกองหน้าตัวเป้า

ขณะที่ ยอห์น แอนเดอร์สัน กุนซือเกาหลีเหนือ จัดทีมนำโดยผู้รักษาประตูกัปตันทีม รี มยอง ขณะที่แนวรุกมี จู จอง ชอล กับยุน อิล กวาง เป็นคู่หน้า

ช่วงต้นเกมเป็นเกาหลีเหนือที่ครองเกมได้มากกว่าไทย และพยายามเปิดเกมเข้าใส่ แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่สามารถทำอะไรช้างศึกได้ จนผ่านไปครึ่งทางครึ่งแรก ไทยเริ่มตั้งเกมของตัวเองได้และเปิดเกมใส่บ้าง จนประสบความสำเร็จในนาทีที่ 40 จากจังหวะฟรีคิกเล่นเร็ว ธีราทรจ่ายให้อดิศักดิ์ ก่อนปล่อยบอลผ่านไปถึงมงคลทางด้านขวา พลิกตัวหนึ่งจังหวะก่อนซัดเต็มข้อให้ไทยออกนำเกาหลีเหนือ 1-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

Advertisement

ครึ่งหลังเริ่มมาทั้งสองทีมผลัดกันเปิดเกมบุกใส่ทันที นาทีที่ 64 เกาหลีเหนือเกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ จู จองชอล ได้โอกาสยิงในกรอบเขตโทษ แต่บอลข้ามคานออกไป

ไทยปรับผู้เล่นส่งสิโรจน์ ฉัตรทอง ลงมาแทนอดิศักดิ์ และในนาทีที่ 77 ก็มาได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่สรรวัชญ์ขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนจ่ายให้พีระพัฒน์หลุดไปสุดเส้นหลังแล้วตบกลับเข้ามาให้ฐิติพันธ์ยิงเข้าประตูไปให้ไทยหนีห่างเป็น 2-0

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บไทยมาได้ลูกที่จุดโทษ ธีรเทพ วิโนทัย ตัวสำรองรับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ไทยเอาชนะเกาหลีเหนือไปได้ 3-0 ผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์สมัยที่ 14 ได้สำเร็จ

Advertisement

ขณะที่ผลคู่แรก เบลารุส เอาชนะ บูร์กินาฟาโซ 3-0 ในการดวลลูกโทษที่จุดโทษ หลังจากที่จบเวลา 90 นาทีเสมอกัน 0-0 โดยรอบชิงชนะเลิศจะลงแข่งขันวันที่ 16 กรกฎาคม โดยคู่แรกเวลา 16.30 น. ชิงอันดับ 3 จะเป็นการพบกันระหว่าง เกาหลีเหนือ กับ บูร์กินาฟาโซ ส่วนรอบชิงชนะเลิศ จะลงแข่งขันเวลา 19.30 น. ทีมชาติไทย พบกับ เบลารุส

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image