จอร์แดน สปีธ อดีตมือ 1 โลก และมือ 3 โลกในเวลานี้จากสหรัฐอเมริกา ที่ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานตั้งแต่ฤดูกาลก่อน ยังนำกอล์ฟเมเจอร์ชายที่ 3 ของปี 2017 “ดิ โอเพ่น” พาร์ 70 ที่ประเทศอังกฤษ แม้จะทำสกอร์เพิ่มในรอบ 2 เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ได้เพียง 1 อันเดอร์พาร์ 69 และสกอร์รวมขยับมากขึ้นแค่ 6 อันเดอร์พาร์ 134 ท่ามกลางสายฝนที่สร้างปัญหาให้บรรดก้านเหล็กมากกว่ารอบแรก
ส่งผลให้สปีธที่จะฉลองวันเกิด 24 ปีเต็ม 6 วันข้างหน้า แต่ฤดูกาล 2016 ได้แชมป์แค่ 2 รายการ และจบเกินอันดับ 10 เกือบครึ่งหนึ่งจากการลงแข่ง 23 รายการ ส่วนฤดูกาลนี้ได้แชมป์มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่ผ่านการตัดตัว 3 รายการ และจบเกินอันดับ 10 อีก 5 รายการ เป็นผู้นำเดี่ยวจบรอบ 2 กอล์ฟดิ โอเพ่น เหนือรองจ่าฝูงแม็ตต์ คูชาร์ เพื่อนร่วมชาติมือ 18 โลก และเป็น 1 ใน 3 ผู้นำร่วมรอบแรกกับสปีธ ที่มีสกอร์รวม 2 วัน 4 อันเดอร์พาร์ 136
ด้านแชมป์ 3 ปีก่อน รอรี่ แม็คอิลรอย อีกหนึ่งอดีตมือ 1 โลก และมือ 4 โลก ที่ผลงานย่ำแย่ระยะหลัง จนไม่ผ่านการตัดตัว 2 รายการติด และเป็นครั้งที่ 3 จาก 4 รายการล่าสุด หนึ่งในนั้นเป็นถึงศึกเมเจอร์ยูเอส โอเพ่น กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และเปิดรอบแรกดิ โอเพ่น ด้วยการตีเกิน 1 โอเวอร์พาร์ 71 แก้ตัวรอบถัดมา 2 อันเดอร์พาร์ 68 สกอร์รวมกลับมาเป็น 1 อันเดอร์พาร์ 139 อันดับ 6 ร่วม
ขณะที่มือ 1 โลกดัสติน จอห์นสัน จากสหรัฐอเมริกา ตีเกิน 2 วันติดอีก 2 โอเวอร์พาร์ 72 สกอร์รวมเกิน 3 โอเวอร์พาร์ 143 อันดับ 35 ร่วม, มือ 2 โลกฮิเดกิ มัตสึยามะ จากญี่ปุ่น ก็ตีเกิน 2 โอเวอร์พาร์ 72 แต่สกอร์รวมอยู่ที่ อีเว่นพาร์ 140 อันดับ 10 ร่วม, มือ 5 โลกเซร์คิโอ การ์เซีย จากสเปน ที่เพิ่งได้แชมป์เมเจอร์แรกในชีวิตเดอะ มาสเตอร์ส ปีนี้ ทำได้ 1 อันเดอร์พาร์ 69 ก็จริง แต่สกอร์รวมยังเกินอยู่ 2 โอเวอร์พาร์ 142 อันดับ 24 ร่วม
มือ 6 โลก และอดีตมือ 1 โลกเจสัน เดย์ ซึ่งฟอร์มตกยาวเหมือนกันจากออสเตรเลีย ตีเกินรอบนี้ถึง 6 โอเวอร์พาร์ 76 ทำให้สกอร์รวมกลับมาเกิน 5 โอเวอร์พาร์ 145 อันดับ 61 ร่วม แต่ผ่านการตัดตัวด้วยสกอร์นี้พอดี
สำหรับ 3 คนไทยรายการนี้ มีเพียง “โปรช้าง” ธงชัย ใจดี มือ 100 โลกที่ผ่านการตัดตัวสกอร์รวม 3 โอเวอร์พาร์ 143 นอกนั้น “โปรหมาย” ประหยัด มากแสง มือ 216 และ “โปรเพชร” พชร คงวัดใหม่ มือ 196 โลก ตกรอบสกอร์รวม 10 โอเวอร์พาร์ 150 และ 14 โอเวอร์พาร์ 154
