ทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ใช้เงินในช่วงปิดฤดูกาลนี้ไปแล้วเกินหลัก 210 ล้านปอนด์ (9,240 ล้านบาท / อัตรา 1 ปอนด์ 44 บาท) และเปิดฉากเกมอุ่นเครื่องรายการพิเศษ “อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ 2017” ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยความพ่ายแพ้ทีมร่วมเมืองอย่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 แก้ตัวกับการถล่ม “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด 4-1 ในเกมอุ่นแข้งรายการเดียวกัน เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม
แม้รีล มาดริด เจ้าของแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 ฤดูกาลหลังสุด และแชมป์ลีกลาลีก้า สเปน ครั้งแรกในรอบครึ่งทศวรรษ จะเปลี่ยนผู้เล่นชุดสำรองและชุดเยาวชน ลงเล่นทั้ง 11 คน ในครึ่งหลัง แต่ก่อนที่ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือของทีมจะเปลี่ยนตัวยกชุดดังกล่าวในนาที 62 ถูกแมนฯ ซิตี้ ซึ่งมีการเปลี่ยนตัวช่วงพักครึ่ง 3 คน ยิงนำไปก่อน 2-0 จากนิโคลัส โอตาเมนดี้ นาที 52 และราฮีม สเตอร์ลิ่ง นาที 59 ก่อนบวกเพิ่มลูก 3-0 จากจอห์น สโตนส์ นาที 67
จากนั้น เป๊ปจึงเริ่มทยอยเปลี่ยนตัวถึง 6 คน และทีมเรือใบสีฟ้าได้ประตูนำโด่ง 4-0 จากบราฮิม ดิอาซ หนึ่งในตัวสำรองครึ่งหลังนาที 81 ส่วนทีมราชันชุดขาวได้ประตูตีไข่แตก 1-4 นาทีสุดท้ายจากออสการ์
จบเกม เป๊ปที่เคยคุมทั้งบาร์เซโลน่า และบาเยิร์น มิวนิก ได้แชมป์ตลอด 7 ฤดูกาลรวมกันถึง 21 ครั้ง แต่ไม่สามารถพาแมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์รายการใดๆ ได้เลยในปีแรกที่รับตำแหน่งนายใหญ่ถิ่นเอติฮัด สเตเดียม ทั้งที่ใช้เงินฤดูกาลที่ผ่านมามากสุดในประวัติศาสตร์สโมสรทะลุ 160 ล้านปอนด์ (7,040 ล้านบาท) ยืนยันว่า แม้จะถล่มทีมดังอย่างรีล มาดริด ถึง 4-1 แต่ผลการแข่งขันกลับไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะวิธีการเล่นของทีมที่แสดงให้เห็นต่างหากคือสิ่งสำคัญกว่า
เป๊ปในวัย 46 ปี กล่าวต่ออีกว่า มันก็เหมือนเกมแรกที่ผ่านมา ซึ่งแมนฯ ซิตี้ แพ้แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งที่ทีมมีฟอร์มที่ดีในเกมนั้นหลายอย่าง และหากทีมเล่นได้อย่างร้อนแรงแบบนี้ต่อไป เป้าหมายของทีมในฤดูกาลหน้าคงมีความเป็นไปได้มากขึ้น นอกจากนี้ 3 กองหลังตัวใหม่ทั้งไคล์ วอล์กเกอร์ และดานิโล่ ที่ลงเล่นในเกมนี้ และเบนจามิน เมนดี้ ที่ยังไม่ได้ลงเล่น จะช่วยให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน
