สหพันธ์กีฬาซีเกมส์ จัดประชุมมนตรีซีเกมส์ ที่โรงแรมแมนดาริน กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม โดยมีมนตรีซีเกมส์ 11 ชาติสมาชิกร่วมประชุม ในส่วนไทยมี นายเจริญ วรรธนะสิน, นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์, นพ.วารินทร์ ตัณฑ์ศุภศิริ เข้าร่วมประชุมพร้อมด้วย พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์สหพันธ์ซีเกมส์
หลังการประชุม พล.ต.จารึก เปิดเผยว่า เรื่องใหญ่สุดที่สหพันธ์ซีเกมส์หารือกันคือ เรื่องเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ครั้งต่อไปในครั้งที่ 30 อีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งฟิลิปปินส์ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าอาจถอนตัว แต่ปรากฏว่า ฟิลิปปินส์ ไม่มีมีหนังสือขอถอนตัวใดๆ เข้ามาในที่ประชุมตามที่ โลว เบ็ง ชู เลขาธิการสหพันธ์กีฬาซีเกมส์รายงานต่อที่ประชุม
ดังนั้นยังคงเป็นไปตามมติเดิมคือ ฟิลิปปินส์ยังคงเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งหน้า ค.ศ.2019 ซึ่ง โจเซ่ โค ฮวง โก้ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกประเทศฟิลิปปินส์ ยืนยันหนักแน่นต่อที่ประชุมว่า ฟิลิปปินส์พร้อมจัดซีเกมส์ 2019 โดยจะใช้เกาะรูซอล ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการเมืองมากที่สุดของประเทศฟิลิปปินส์เป็นสถานที่จัดการแข่งขัน
ส่วนชนิดกีฬานั้นยังไม่ได้มีการยืนยันต่อที่ประชุม แต่ฟิลิปปินส์ประกาศว่า ดีใจที่จะได้กลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้งหลังจากครั้งสุดท้ายที่จัดคือ ครั้งที่ 23 ค.ศ.2005 หรือเมื่อ 12 ปีที่แล้ว และจัดแข่งขันให้ดีที่สุด พร้อมกับรักษาวัฒนธรรมและความเป็นปึกแผ่นของชาวอาเซียนเอาไว้
พล.ต.จารึกกล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ไทยเตรียมเสนอตัวหากฟิลิปปินส์ขอถอนตัวนั้น เราแค่ต้องการแสดงออกถึงการเป็นชาติที่ร่วมก่อตั้งกีฬาซีเกมส์มาตั้งแต่แรกเริ่ม หากมีชาติใดไม่พร้อมจัด เราคงต้องขอรับไปหารือกับทางรัฐบาลไทยก่อนว่าจะจัดหรือไม่ ไม่ใช่ว่าโอลิมปิคไทยรับเป็นเจ้าภาพ แต่ในเมื่อฟิลิปปินส์จัดตามวงรอบเดิมที่กำหนดไว้ไทยก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ
ด้านนายเจริญ กล่าวเสริมว่า ตัวแทนของกัมพูชา ยังได้ยืนยันต่อที่ประชุมว่า กัมพูชาพร้อมเป็นเจ้าภาพในครั้งที่ 32 ตามวงรอบตัวอักษรที่กำหนด ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการก่อสร้างสนาม และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อเตรียมเป็นเจ้าภาพแล้ว