กำปั้น‘ไทย’เซ็ง! ได้แค่ 2 ทอง ‘ฉัตร์ชัย’ควง‘วุฒิชัย’ครองแชมป์ซีเกมส์สมัย 3

"สด" ฉัตร์ชัย บุตรดี

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเสด็จทอดพระเนตรการแข่งขันของนักมวยสากลชายทีมชาติไทย รอบชิงชนะเลิศ กีฬาซีเกมส์ 2017 ที่ฮอลล์ 8 ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติแห่งมาเลเซีย หรือ ไมเทค กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม โดยมี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานกิตติมศักดิ์คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ, นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะเฝ้ารอรับเสด็จ

การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ มีนักชกชายไทยทะลุผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ลุ้นเหรียญทองถึง 5 รุ่น จากการแข่งขันทั้งหมด 6 รุ่น

เริ่มต้นที่รุ่นไลต์ฟลายเวต 49 กก. “หอย” ธานี ระรินรัมย์ กำปั้นดาวรุ่งดีกรีแชมป์เยาวชนเอเชียปี 2014 ซึ่งเข้าร่วมสังเวียนซีเกมส์ครั้งแรก เดินหน้ารัวแลกหมัดกับ มูฮาหมัด ฟูอัด เรดซูอาน นักชกเจ้าภาพมาเลเซีย ก่อนพ่ายคะแนนแบบเอกฉันท์ 5-0 ทำให้ได้เพียงเหรียญเงิน

ถัดมารุ่นฟลายเวต 52 กก. “แดง” ธเนศ องค์จันทร์ต๊ะ พยายามออกหมัดเข้าใส่ แต่ก็โดน อัลดอมส์ ซูโกโร่ กำปั้นชาวอินโดนีเซีย ดักต่อยหมัดเข้าเป้า และเป็นธเนศพ่ายคะแนแบบเฉียดฉิว 2-3 ทำให้ได้เพียงเหรียญเงินเช่นกัน

Advertisement

จากนั้นรุ่นแบนตั้มเวต 56 กก. “สด” ฉัตร์ชัย บุตรดี อดีตแชมป์ซีเกมส์ 2 สมัยเมื่อปี 2009, 2013 และแชมป์เอเชียปี 2015 อาศัยชั้นเชิงอันเหนือกว่าปล่อยหมัดเข้าใบหน้าสลับลำตัวโค่นเอาชนะคะแนนแชมป์เก่า มาริโอ เฟอร์นานเดซ นักชกจากฟิลิปปินส์ 4-0 ทำให้ฉัตร์ชัยคว้าเหรียญทองสมัยที่ 3 ไปครองสำเร็จ

หลังการแข่งขัน ฉัตร์ชัย เปิดเผยว่า ตั้งใจมากว่าจะต้องคว้าเหรียญทองกลับไปประเทศไทยให้ได้ ซึ่งพอ 2 คู่แรกแพ้ไปก็กดดันเล็กน้อย แต่พยายามมีสมาธิกับการแข่งขัน โดยขอมอบเหรียญทองนี้เป็นของขวัญวันเกิดให้ลูกสาวที่เคยผ่านไปเมื่อวานนี้ และขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ ส่วนก้าวต่อไปคงมองไปที่กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ในปีหน้า และอยากคว้าเหรียญให้ได้

Advertisement

“เอ็ม” วุฒิชัย มาสุข

รุ่นไลต์เวลเตอร์เวต 64 กก. “เอ็ม” วุฒิชัย มาสุข ดีกรีแชมป์เก่าซีเกมส์ 2 สมัยที่ผ่านมา และเจ้าของแชมป์เอเชี่ยนเกมส์ 2014 โชว์ฟอร์มสมราคาไล่ชกอย่างเหนือชั้นเอาชนะคะแนน ซาโรฮาตัว ลัมบันโทบิง จากอินโดนีเซีย แบบเอกฉันท์ 5-0 ทำให้วุฒิชัยคว้าเหรียญสมัยที่ 3 ติดต่อกัน

หลังการแข่งขัน วุฒิชัย กล่าวว่า ถือว่าทำได้ตามเป้าหมายที่โค้ชวางไว้คือเหรียญทอง เกมนี้ไม่กดดัน และทำตามแผนของโค้ช ซึ่งในรอบนี้ก็ไม่ได้ยากไม่ได้ง่าย เพราะทุกคนเป็นนักชกที่ดี และจะประมาทไม่ได้ โดยตนได้ฟิตร่างกายเต็มร้อยมาชกครั้งนี้ เป้าหมายต่อไปก็คือเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ แต่ก็ยังต้องปรับปรุงสไตล์การชกให้หลากหลายยิ่งขึ้น

ปิดท้ายที่รุ่นมิดเดิลเวท 75 กก. “นวม” ปฐมศักดิ์ ขัตติยะ นักชกน้องใหม่ทีมชาติไทยที่ขึ้นชกซีเกมส์ครั้งแรกเช่นกัน พ่ายคะแนน มาร์วิน จอห์น โนเบล ทูปาส จากฟิลิปปินส์ 0-5 ทำให้ได้เพียงเหรียญเงิน สรุปรวมทีมมวยสากลชายไทยคว้าไปได้ 2 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง พร้อมครองเจ้าทองมวยสากลชาย

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายเทคนิค สมาคมกีฬามวยสากลฯ เปิดเผยว่า พอใจกับผลงานแม้จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 3 เหรียญทอง ซึ่งก็ยังมีจุดที่ต้องปรับแก้ต่อไป และสัญญาว่าจะทำผลงานให้ดีกว่านี้

นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลฯ กล่าวว่า ทำได้น้อยไป 1 เหรียญทอง แต่ภาพรวมผลงานครั้งนี้ก็ถือว่าทีมไทยคว้าเจ้าทองได้มากที่สุด และนักชกทุกคนก็ได้เหรียญครบทั้ง 6 รุ่น แต่เราได้เห็นมาตรฐานของซีเกมส์ทุกชาติชกได้ดีขึ้นหมด ส่วนในเอเชี่ยนเกมส์คงต้องดึงเด็กใหม่ 3-4 คนขึ้นมาเสริมทีมต่อไป

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image