หลังตลาดซื้อขายนักฟุตบอลรอบแรกฤดูกาล 2017-18 ส่วนใหญ่ปิดตัวลงช่วงดึกวันที่ 31 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น ยกเว้นประเทศสเปน ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งเดียวใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปที่ปิดตลาดเวลา 24.00 น. วันรุ่งขึ้นที่ 1 กันยายน ดังนั้นยังสามารถซื้อขายหรือยืมตัวนักเตะภายในลีกตัวเองได้ และซื้อจากลีกอื่นที่ปิดตลาดไปแล้วได้ แต่ไม่สามารถขายนักเตะ และปล่อยให้ลีกที่ปิดไปแล้วยืมตัวได้
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ตลาดซื้อขายลีกดังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ, บุนเดสลีก้า เยอรมนี, กัลโช่เซเรียอา อิตาลี และลีกเอิง ฝรั่งเศส ปิดลง ส่วนลาลีก้า สเปน ยังดำเนินการซื้อขายได้อยู่ ปรากฏว่า ไม่มีการซื้อขายที่ทำให้คอลูกหนังต้องตาลุกเกิดขึ้นในวันที่ 31 สิงหาคม เนื่องจากฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อเล็กซิส ซานเชซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ และดีเอโก้ คอสต้า ที่ตกเป็นข่าวอย่างหนักหน่วงตลอดเวลาที่ผ่านมา ยังคงเป็นนักเตะสังกัดเดิมต่อไป
โดยคูตินโญ่ของทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ซึ่งมีข่าวย้ายไปแทนเนย์มาร์ที่บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่ลาลีก้า จนถึงขนาดเจ้าตัวกล้าขอสโมสรขึ้นบัญชีย้ายทีม และ “เดอะ ซัน” สื่อเมืองผู้ดีรายงานว่า บาร์ซ่าจะแถลงข่าวซื้อ “คูตี้” เวลาท้องถิ่นอังกฤษ 19.00 น. ของวันที่ 31 สิงหาคม ต้องลุ้นย้ายทีมต่อไปในวันซื้อขายสุดท้ายของตลาดนักเตะสเปน
นอกจากนี้ บังเอิญเหลือเกินว่า คูตินโญ่ที่ลงเล่นให้ทีมชาติบราซิลที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2018 ไปแล้ว สามารถทำประตูในเกมรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ นัด 15 ที่ทีม “แซมบ้า” เปิดบ้านชนะเอกวาดอร์ 2-0 แถมนักเตะอีกคนที่ยิงได้ในเกมนี้ คือเปาลินโญ่ กองกลางตัวใหม่ที่บาร์ซ่าเพิ่งซื้อมาจากกว่างโจว เอฟเวอร์แกรนด์
หลังโดนเนย์มาร์ก่อกบฏซื้อค่าฉีกสัญญาตัวเอง 222 ล้านยูโร (8,880 ล้านบาท/อัตรา 1 ยูโร 40 บาท) เพื่อย้ายไปปารีส แซงต์แชร์แมง
ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูลที่พยายามรั้งคูตินโญ่สุดชีวิต แม้บาร์เซโลน่าจะเอาเงินมากองตรงหน้าถึง 138 ล้านปอนด์ (5,934 ล้านบาท) โดนเวรกรรมแบบเดียวบ้าง เมื่อทีมร่วมศึกพรีเมียร์ลีก “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ยังยืนกรานไม่ขายฟาน ไดก์ ปราการหลังตัวเก่ง เพื่อดัดนิสัยทั้งตัวนักเตะ และทีมหงส์แดงที่แอบคุยกันเรื่องย้ายทีมลับหลัง
ส่วนรายอเล็กซิสซึ่งเคยบอกใบ้ต่อหน้านักข่าวช่วงปิดฤดูกาล ระหว่างช่วยทีมชาติชิลีโม่แข้งในรายการคอนเฟดเดอเรชั่นส์ คัพ 2017 ที่รัสเซียว่า ได้ตัดสินใจอนาคตเรื่องการย้ายหรือไม่ย้ายทีมจากอาร์เซน่อลแล้ว พร้อมแสดงเจตนาอยากย้ายกับการกระทำไม่ต่อสัญญาที่เหลือแค่จบฤดูกาลนี้กับ “ไอ้ปืนใหญ่” และมีข่าวย้ายไปร่วมงานกับเป๊ป กวาร์ดิโอล่า อดีตนายเก่าสมัยอยู่บาร์เซโลน่าหลายปีก่อนที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แถมตอนบ่ายวันสุดท้ายซื้อขายนักเตะ มีข่าวจาก “เดลี่ มิร์เรอร์” อีกสื่ออังกฤษว่า ทีม “เรือใบสีฟ้า” ประสบความสำเร็จในการคว้าตัวอเล็กซิส เพราะอาร์เซน่อลยอมรับข้อเสนอ 55 ล้านปอนด์ (2,365 ล้านบาท/อัตรา 1 ปอนด์ 43 บาท) และเพิ่มอีก 5 ล้านปอนด์ (215 ล้านบาท) ตามผลงานนักเตะ แต่สุดท้ายดีลดังกล่าวกลับแหกโค้งลงเหวไม่เป็นท่า
เนื่องจากอาร์เซน่อลไม่อาจซื้อแนวรุกอย่างโธมัส เลอมาร์ มาทดแทนอเล็กซิสได้ ทั้งที่ยื่นเงินให้โมนาโกต้นสังกัดนักเตะถึง 92 ล้านปอนด์ (3,956 ล้านบาท)
ด้านคอสต้าที่มีปัญหาส่วนตัวสะสมกับอันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีมเชลซีต้นฤดูกาลก่อน และระเบิดอารมณ์ใส่กันช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 จนมีข่าวศูนย์หน้าจอมดีเดือดเลือดร้อนทีมชาติสเปน แต่เป็นคนบราซิลโดยกำเนิดที่หน้าแก่กว่าอายุจริงรายนี้ อยากย้ายไปโกยเงินหยวนในลีกจีน แม้โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีม “สิงห์บลู” จะสั่งให้สงบศึกสำเร็จ
ทว่าหลังเชลซีคว้าแชมป์ลีกเมืองผู้ดี ทั้งคู่ออกอาการไม่เอากันและกัน โดยคอสต้าต้องการย้ายกลับทีม “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด ในสเปน ซึ่งสามารถซื้อนักฟุตบอลได้ แต่ส่งลงเล่นไม่ได้ช่วงที่เหลือปี 2017 เพราะโดน “ฟีฟ่า” แบนคดีเซ็นสัญญาเยาวชนต่างชาติอายุต่ำกว่า 18 ปีระหว่างปี 2007-2014
