ราฟาเอล นาดาล ที่หายเจ็บเรื้อรังตลอดหลายปีที่ผ่านมา และประคบประหงมร่างกายตัวเองในวัย 31 ปี เพื่อไล่ล่าแชมป์ฤดูกาล 2017 นี้โดยเฉพาะ และเพิ่งกลับเป็นมือ 1 โลกรอบ 3 ปี ยกให้เป็นหนึ่งในปีที่ยอดเยี่ยมตลอดการเล่นเทนนิสอาชีพ หลังคว้าแชมป์รายการแกรนด์สแลมครั้งที่ 16 หรือแชมป์ “ยูเอส โอเพ่น” สมัยที่ 3 ด้วยการไล่ต้อนเควิน แอนเดอร์สัน มือ 32 โลกจากแอฟริกาใต้ 6-3, 6-3, 6-4 เกมชายเดี่ยวรอบชิงชนะเลิศ ที่กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 กันยายน
ราฟาเอล นาดาล (ภาพ AFP)
เจ้าของฉายา “ราชาคอร์ตดิน” จากสเปน ที่ได้แชมป์สแลมเฟร้นช์ โอเพ่น หน 10 ในชีวิต 3 เดือนก่อน และเข้าชิงสแลมต้นปีออสเตรเลียน โอเพ่น รวมทั้งคว้าแชมป์ทุกรายการปีนี้ไปแล้ว 5 ครั้งยืนยันว่า นี่คือหนึ่งในฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของตัวเอง เพราได้เล่นเกมชิงดำแกรนด์สแลมถึง 3 ครั้ง ซึ่งนั่นถือว่าทั้งยาก และมากแล้ว ส่วนสแลมวิมเบิลดันที่ตกรอบ 16 คน ก็เล่นกัน 5 เซต หรือเกือบ 5 ชั่วโมง แถมเซตสุดท้ายยังหวดถึง 13-15 เกม
เควิน แอนเดอร์สัน (ภาพ AFP)
สำหรับศึกยูเอส โอเพ่น 2017 มีเพียงมือดังอย่างนาดาล และแชมป์สูงสุดร่วมยุคโอเพ่น 5 สมัย “เฟดเอ็กซ์” โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ คู่ปรับตลอดกาลมือ 3 โลกจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่ร่วมแข่ง ส่วนแอนดี้ เมอร์เรย์ มือ 2 โลกที่เพิ่งเสียบัลลังก์มือ 1 โลกให้นาดาล และแชมป์ 2 สมัยจากสกอตแลนด์ กับ โนวัก โยโควิช อีกหนึ่งอดีตมือ 1 โลก และแชมป์ 2 สมัยมือ 5 โลกจากเซอร์เบีย ถอนตัวจากอาการบาดเจ็บ
นาดาลฉลองกัดถ้วยแชมป์ตามสไตล์ (ภาพ AFP)
ส่งผลให้เมื่อจบการแข่งขัน เฟเดอเรอร์ที่เพิ่งอายุครบ 36 ปีเต็มได้เดือนเศษ แต่ลืมความแก่แบ่งแชมป์สแลมฤดูกาลนี้กับนาดาลคนละ 2 รายการ และตกรอบ 8 คนรายการนี้แซงเมอร์เรย์เป็นมือ 2 โลก จึงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2011 ที่ทั้งคู่ครองตำแหน่งมือ 1 และมือ 2 โลกพร้อมกัน