“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมปีที่ 2 ของโจเซ่ มูรินโญ่ และเพิ่งถูกด่ายับที่บุกไปอุดประตูในเกมลีกนัด “แดงเดือด” กับคู่แค้นตลอดกาล “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลแบบไร้สกอร์ 4 วันก่อน ยังไม่แพ้ใคร 12 เกมติดจากทุกรายการ และเสียท่ารีล มาดริด ครั้งเดียวตั้งแต่เกมยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ ฤดูกาลนี้ หลังคว้าชัยในศีกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2017-18 รอบแบ่งกล่ม 3 นัดติด ด้วยการบุกชนะ “เหยี่ยวลิสบอน” เบนฟิก้า 1-0 เกมกลุ่มเอ นัดที่ 3 จากทั้งหมด 6 นัด เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม
แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูชัยนาที 64 จากจังหวะมาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งกำลังจะฉลองวันเกิด 20 ปีเต็มปลายเดือนนี้ เปิดฟรีคิกหวังให้เพื่อนโหม่งในกรอบเขตโทษ แต่การวางบอลลึกเกินไปของเจ้าตัวกลับกลายเป็นเรื่องดี เนื่องจากไมล์ สวิลาร์ นายทวารเจ้าถิ่นที่มีอายุน้อยกว่า และทำสถิติเป็นนายทวารที่ออกสตาร์ตตัวจริงอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 18 ปี 52 วัน ถอยหลังรับบอลจนตัว และมือที่ถือลูกบอลอยู่เข้าเส้นปากประตูฝั่งตัวเองเข้าไป
จบเกม ปีศาจแดงบุกเบียดเหยี่ยวลิสบอน 1-0 มี 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัด นำจ่าฝูงต่อไป ส่วนเกมอีกคู่กลุ่มเดียวกัน ซีเอสเคเค มอสโก พ่าย บาเซิล 0-2 ทำให้บาเซิลมี 6 คะแนนจาก 3 นัด และรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงกลุ่ม ตามด้วยซีเอสเคเอ 3 คะแนน และเบนฟิก้าจมบ๊วยยังไม่มีคะแนน
ส่วนมูรินโญ่วัย 54 ปี ที่ใช้เงินซื้อนักเตะตั้งแต่รับตำแหน่งนายใหญ่ถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดเกือบ 300 ล้านปอนด์ (13,200 ล้านบาท / อัตรา 1 ปอนด์ 44 บาท) และเคยคุมทีมฟุตบอลครั้งแรกในชีวิตกับเบนฟิก้า อวดเกมรับสุดแกร่งของทีมตัวเองว่า จากรูปเกมที่แมนฯ ยูไนเต็ด ครองเกมได้เกือบทั้งหมด จึงไม่มีความคิดแม้แต่แอะเดียวว่าทีมจะเสียประตู
นอกจากนี้เจ้าของฉายา “เดอะ สเปเชียล วัน” ยังไม่ลืมประชดย้อนหลังประเด็นที่ตัวเอง โดนนักวิจารณ์ลูกหนังส่วนใหญ่ด่าแบบเสียคนในเกมบุกไปอุดประตูกับลิเวอร์พูลว่า แมนฯ ยูไนเต็ดชุดนี้ เป็นแมนฯ ยูไนเต็ดที่มีเกมรับเหนียวแน่นมากๆ แต่กลับมีหลายคนด่าทอในเรื่องนี้ จนบางครั้งตัวเองรู้สึกว่าการเล่นเกมรับเหมือนเป็นการทำอาชญากรรมยังไงยังงั้น ซึ่งมันไม่ใช่อย่างนั้นแม้แต่น้อย
ผลกลุ่มอื่น
กลุ่มบี นัด 3
อันเดอร์เลชต์ (เบลเยียม) แพ้ ปารีส แซงต์แชร์แมง (ฝรั่งเศส) 0-4
บาเยิร์น มิวนิก (เยอรมนี) ชนะ กลาสโกว์ เซลติค (สกอตแลนด์) 3-0
กลุ่มซี นัด 3
เชลซี (อังกฤษ) เสมอ โรม่า (อิตาลี) 3-3
คาราบัก (อาเซอร์ไบจาน) เสมอ แอตเลติโก้ มาดริด (สเปน) 0-0
กลุ่มดี นัด 3
บาร์เซโลน่า (สเปน) ชนะ โอลิมเปียกอส (กรีซ) 3-1
ยูเวนตุส (อิตาลี) ชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส) 2-1
