ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ อัพเกรดขึ้นมาเป็นทีมอันดับ 2 ของลอนดอน ถึงจะยังเป็นรอง เชลซี แต่อย่างน้อยแฟนๆ ก็ดีใจที่แซง อาร์เซน่อล คู่ปรับตลอดกาลไปเรียบร้อยแล้ว
เส้นทางของสเปอร์สมีแต่ รุ่ง ฤดูกาลหน้าจะย้ายไปเล่นสนามใหม่จุ 61,000 คน ผู้บริหารก็ดูแลทีม ไม่ขายตัวเก่งหากำไรง่ายๆ ขณะที่กุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ยิ่งอยู่นาน ยิ่งน่านับถือ ยกระดับฝีมือขึ้นมาพร้อมๆ กัน
ถ้ายังก้าวไปข้างหน้าสม่ำเสมออย่างนี้ สเปอร์สอาจจะเป็น แชมป์พรีเมียร์ลีก ได้สักวัน
ทุกปีที่โตขึ้น นักเตะก็มั่นใจ ปีนี้น่าจะบี้กับสองทีมจาก แมนเชสเตอร์ อย่างสนุก
ถ้าสเปอร์สผ่านสองเกมนรก 2 นัดข้างหน้าไปได้สวยๆ รับรองว่าได้ลุ้นกันยาว
อาทิตย์นี้ เล่นในบ้านเจอ ลิเวอร์พูล เสาร์หน้าบุกเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมตราไก่แข็งแกร่งแค่ไหน เจ๋งพอหรือไม่ จะได้รู้กันไปเลย
นักเตะสเปอร์สเพิ่งตุนความเชื่อมั่นมาจากการเสมอ รีล มาดริด ในแชมเปี้ยนส์ลีก ทุกคนรู้ดีว่า รอดด่านนั้นมาได้ ก็สู้ได้ทุกทีม
แต่เกมวันอาทิตย์กับลิเวอร์พูล เป็นเกมใหม่ที่แตกต่าง หงส์แดง ไม่เก่งเท่ารีล มาดริด ความแน่นอน เหนือชั้น เทียบกันไม่ได้ เรื่องนี้ทุกคนรู้ดี
แต่ลิเวอร์พูลมีความฟิต ความดุดัน วันไหน ผีเข้า จะเพิ่มความวูบวาบ กลายเป็น เครื่องจักรสีแดง แบบนัดล่าสุดที่บุกถล่ม มาริบอร์ 7-0 อย่างน่าตื่นตะลึง
ลิเวอร์พูลไม่ได้เป็นเครื่องจักรทุกนัด ที่น่ากลัวคือไม่มีใครเดาใจออกว่านัดไหนจะปิ้ง, นัดไหนจะแป้ก
เกมบุกเยือนสเปอร์สก็ดูยาก ถ้าหงส์รับแน่นๆ รอสวนกลับดีๆ ความเร็วของ โม ซาลาห์ มีสิทธิฉีกเกมรับเจ้าบ้านได้นะครับ
แต่หากสวนไม่ขึ้น แดนกลางหาบอลไม่เจอ โดนเสปอร์สพับสนามบุก งานก็กร่อยกันเท่านั้น
โดยพื้นฐานแล้ว ท็อตแนมมี ความเป็นทีม สูงกว่า สมดุลกว่า แฮร์รี่ เคน คมกริบ เชื่อใจได้มากกว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ หลายเท่า
แต่ไอ้ความเชื่อใจไม่ได้ เอาแน่เอานอนไม่ได้นี่แหละ ที่ทำให้ลิเวอร์พูลดูอันตราย
บอลลูกบ้า ดีเป็นวันๆ สร้างปัญหาให้สเปอร์สมานักต่อนัก อย่างเจอกับลิเวอร์พูลเอง ทีม ตราไก่ ก็ไม่ชอบ สถิติเก่าข่มกันแบบเหลือเชื่อ
เจอกัน 10 นัดหลังรวมทุกถ้วย สเปอร์สไม่เคยชนะลิเวอร์พูล แถมแพ้ซะ 7
ตราไก่ชนะครั้งสุดท้าย ต้องย้อนหลังกลับไป 5 ปี!
