ลูอิส แฮมิลตัน ตีนผีจากอังกฤษ ทีมเมอร์เซเดส ที่เสียฟอร์มไม่น้อย กับการเสียแชมป์โลกให้นิโก้ รอสเบิร์ก นักขับมือรองทีมเดียวกันจากเยอรมนีปีก่อน แก้ตัวคว้าแชมป์โลกปีนี้ แม้จะได้แค่ที่ 9 ศึกเอฟวัน ฤดูกาล 2017 “เม็กซิโก กรังด์ปรีซ์” ที่กรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม และเหลือการแข่งอีก 2 รายการในฤดูกาลนี้ นับเป็นแชมป์สมัย 4 เจ้าตัว สูงสุดอันดับ 3 ร่วมตลอดกาลอีกด้วย
ก่อนแข่งแฮมิลตันวัยใกล้ครบ 33 ปีเต็มต้นปีหน้า และเคยเป็นแชมปเอฟวันฤดูกาล 2008, 2014, 2015 มีคะแนนสะสมโลกฤดูกาลนี้ 331 แต้ม นำโด่งเหนืออันดับ 2 เซบาสเตียน เว็ตเทล ดีกรีแชมป์โลก 4 สมัยจากเยอรมนี และทีมเฟอร์รารี่ ถึง 66 แต้ม
ปรากฏว่า แฮมิลตันโดนเว็ตเทลชนจนต้องเสียเวลาซ่อมรถ และถึงแฮมิลตันจะได้แค่อันดับ 9 มีคะแนนเพิ่มเพียง 2 แต้มก็จริง แต่การที่เว็ตเทลได้อันดับ 4 มีเพิ่มอีก 12 แต้ม ทำให้แฮมิลตันมีคะแนนสะสมรวม 333 แต้ม มากกว่าเว็ตเทลที่มี 277 แต้ม อยู่ที่ 56 แต้ม จึงคว้าแชมป์โลกเอฟวันฤดูกาลนี้เป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากเหลือการแข่งอีกเพียง 2 สนาม ซึ่งมีคะแนนให้สะสมเต็มที่สำหรับผู้ชนะแค่ 50 แต้มเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังส่งผลให้แฮมิลตันได้แชมป์โลก 4 สมัยเท่าเว็ตเทล และอแล็ง ปรอสต์ อดีตตำนานวัย 62 ปีจากฝรั่งเศส เป็นรองฮวน มานูเอล ฟานเคียว อีกหนึ่งตำนานผู้ล่วงลับวัย 84 ปีจากอาร์เจนตินา ที่ได้แชมป์ 5 สมัย และมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ตำนานจากเยอรมนี ที่จะอายุ 49 ปีไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่นอนเป็นอัมพาตอยู่ในเวลานี้ ที่ได้แชมป์มากสุดตลอดกาล 7 สมัย