หลังจากที่ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดไอโมบาย สเตเดียม ถล่มเอาชนะ “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน 4-0 พร้อมกับทะยานคว้าแชมป์ “โตโยต้า ไทยลีก 2017” มาครองได้แม้จะเหลือเกมอีก 2 เกมก็ตาม ซึ่งบุรีรัมย์ กลายเป็นทีมแรกที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดถึง 5 สมัยด้วยกันมาครอง
ภายหลังเกม “บิ๊กเน” นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ กล่าวว่า ดีใจที่วันนี้สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้คือการคว้าแชมป์ในบ้านตัวเอง ก่อนที่ฤดูกาลจะปิดฉาก 2 นัด เพื่อเป็นการฉลองแชมป์ต่อหน้าแฟนบอลของตัวเองที่คอยสนับสนุนตลอดมา
“สำหรับปีต่อไป ก็จะต้องเตรียมทีมให้ดีที่สุดเพื่อรักษาแชมป์ลีกเอาไว้ให้ได้อีกสมัย รวมไปถึงการทำผลงานในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ดีที่สุด ซึ่งปีหน้านั้นเตรียมที่จะดันเด็กในทีมอคาเดมีขึ้นมาอีกหลายๆ คน เพราะนอกเหนือจากเป้าหมายการรักษาแชมป์แล้ว ก็คือการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ยั่งยืนด้วย”
นายเนวิน กล่าวต่อว่า สิ่งหนึ่งเลยต้องขอโทษแฟนบอลทุกคนที่ไม่สามารถคว้ามาได้ทุกแชมป์ตามที่ได้ประกาศเอาไว้ตั้งแต่ตอนก่อนเริ่มฤดูกาล ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ฟุตบอลไทยมีการพัฒนาขึ้นมามาก แต่ละทีมมีการเตรียมทีมอย่างดี ทำให้ไม่ง่ายเหมือนเดิม
“ดีใจมากๆ ที่ได้เห็นเพื่อนร่วมลีกพัฒนาทีมขึ้นมาต่อสู้กันได้อย่างสูสี นั่นหมายความว่าจะเป็นการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวหน้า และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติได้ ส่วนตลอดปีที่ผ่านมาในการแข่งขันอาจมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง ก็ให้ถือว่าเป็นสีสันของวงการฟุตบอลไทย ปีหน้าเจอกันใหม่สำหรับทุกทีมที่ยังติดใจและข้องใจอยู่” นายใหญ่ปราสาทสายฟ้ากล่าวปิดท้าย
ด้าน โบซิดาร์ บันโดวิช กุนซือทีมปราสาทสายฟ้า กล่าวว่า เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของทีม ถ้าหากย้อนไปดูตลอดฤดูกาลที่ผ่านมาทีมบุรีรัมย์คือทีมที่เหมาะสมกับการเป็นแชมป์ มีการชนะติดๆ กันหลายเกม และมีเกมที่ไม่เสียประตูถึง 20 เกมด้วยกัน
“ตอนนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่วิเศษ ขอบคุณและยินดีกับแฟนบอลที่คอยให้การสนับสนุนเสมอมา และส่วนตัวเองขอขอบคุณสโมสรที่ให้ความไว้วางใจคุมทีมในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง
บันโดวิช กล่าวต่อว่า สำหรับตอนนี้ขอมีความสุขกับผลงานการคว้าแชมป์ก่อน เพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติกับทุกทีมที่ร่วมแข่งขันกันมา ส่วนการแข่งขันในปีหน้าทั้งในลีก และถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก จะต้องมีการวางแผนอย่างดี แต่ตอนนี้ขอโฟกัสกับ 2 เกมสุดท้ายที่ยังเหลือก่อน
เกมนี้ บุรีรัมย์ ได้ประตูจาก “ชาช่า” แจ็คสัน โคเอลโญ่ นาทีที่ 6 กับ 20, จุดโทษของ ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต นาทีที่ 13 และประตูปิดท้ายจาก “กัปตันกบ” สุเชาว์ นุชนุ่ม นาทีที่ 60 ทำให้บุรีรัมย์มี 80 คะแนน จาก 32 นัด นำ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงที่บุกไปพ่าย อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด 1-2 ถึง 14 คะแนน และเมืองทองฯ เหลือเกมให้ลงเล่น 3 เกมเท่านั้น