“เดลี่ เมล” สื่อประเทศอังกฤษรายงานว่า มีการปะทะกันหลังเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในศึกดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ ที่สนามโอดล์แทรฟฟอร์ด เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ระหว่างนักเตะ และสต๊าฟโค้ช เจ้าถิ่น “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้แพ้ในเกมนี้ กับเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บริเวณใต้อัฒจันทร์ทางเดินเข้าห้องแต่งตัว
เริ่มจากการที่โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นคนเดินไปบอกนักเตะแมนฯ ซิตี้ ถึงห้องแต่งตัวอีกฝ่ายว่า ให้ฉลองชัยชนะด้วยการให้เกียรติฝั่งเจ้าบ้านด้วย หลังมีการเปิดเพลงเสียงดังจากห้องแต่งตัวทีมเยือน ทำให้เอแดร์สัน นายทวารชาวบราซิล ซึ่งใช้ภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาหลักอยู่แล้ว เข้าไปต่อล้อต่อเถียงอย่างดุเดือดกับกุนซือชาวโปรตุเกส
ส่งผลให้เรื่องบานปลาย เมื่อนักเตะ และสต๊าฟโค้ชแมนฯ ยูไนเต็ด ตามมาช่วยเจ้านายตัวเอง จนมีการปะทะกันของทั้งสองฝ่ายรวมกันถึง 20 คน โดยพยานที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าเป็นฉากๆ ว่า มีผู้เล่นบางคนเหวี่ยงหมัดใส่กัน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แต่ยืนมองแบบไม่มีเชื่อสายตา
ขณะที่มูรินโญ่โดนทั้งน้ำ และนมกล่องสาดใส่ และถูกตีหัวด้วยขวดเปล่าพลาสติก ด้านมิเกล อาร์เตต้า อดีตนักบอลอาร์เซน่อล แต่เป็นผู้ช่วยเป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือทีมเรือใบศีรษะแตก
ก่อนหน้านี้ ผู้เล่น และทีมงานโค้ชปีศาจแดงเคยเจอเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้วในเดือนตุลาคมปี 2004 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดแห่งนี้ กับนักเตะทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ครั้งนั้นเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โค้ชยูไนเต็ด ถูกเชสก์ ฟาเบรกาส นักเตะฝั่งตรงข้ามปาพิซซ่าใส่หลังเกมที่เจ้าบ้านคว้าชัย 2-0 หยุดสถิติไร้พ่ายเกมลีกข้ามฤดูกาลของอาร์เซน่อลไว้ที่ 49 นัดติด
