แมนฯ ซิตี้ ชนะมา 15 นัดรวดในลีก ทิ้งแมนฯ ยู 11 คะแนน เรื่องแชมป์-ไม่แชมป์ ไม่ต้องไปพูดถึง ที่น่าสนใจกว่า คือ ซิตี้ทำแบบนี้ได้ยังไง
กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ โรเตชั่น นะครับ แต่ โร คนละแบบกับ ลิเวอร์พูล
เป๊ปชอบเปลี่ยนทีม ในเกม มากกว่าจะให้ ผลัดกันเล่น เกมเว้นเกม นัดไหนยิงสกอร์ขาดเร็ว ก็เปลี่ยนตัวจริงออกช่วง 20-15 นาทีสุดท้าย เล่นบอลผ่อนหนักผ่อนเบา ไม่ได้ให้พักไม่ต้องเล่นทั้งเกมอย่างที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำกับทีมหงส์แดง
แล้วเป๊ปก็จัดทีมอย่างฉลาด วันไหนโรเตชั่นก็ปรับแทคติคตาม ถ้าเล่นกองหน้าคู่ กาเบรียล เจซุส กับ กุน อากูเอโร่ อาจจะถ่าง เควิน เดอ บรอยเนอ ไปเป็ปีกมากหน่อย แต่รวมๆ แล้ว เปลี่ยนยังไง มันก็ดูสมดุลไม่หลุดมาตรฐาน
สังเกตว่า แมนฯ ซิตี้ ไม่ชอบพักตัวหลัก เด บรอยเนอ กับ ดาบิด ซิลบา ถ้าลงได้ ยังไงก็ต้องลง
อีกอย่างคือ ตัวจริง-ตัวสำรอง คุณภาพไม่ต่างกันมากด้วย ทีมใหญ่จะได้เปรียบทีมที่ไม่ใหญ่เท่าก็ตรงนี้แหละ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เป็นอีกทีมที่ยังไม่ใหญ่พอ
สเปอร์สจะบุกมาเยือนซิตี้ในวันเสาร์นี้ และแฟนๆ ก็จะเห็นว่า การมีตัวเลือกเหลือเฟือ ทำให้ เรือใบสีฟ้า เหนือกว่าคู่ต่อสู้ขนาดไหน
แมนฯ ซิตี้ ตัวไหนเล่นไม่ออก กุนซือเป๊ปมีคนอื่นรอเสียบแทนทันที แต่สเปอร์สไม่ได้สต็อคใหญ่แบบนั้น
เดเล่ อัลลี ปืนฝืดมา 8 นัดติด ล่าสุดที่ชนะ ไบรตัน 2-0 โดนดร็อปเป็นสำรอง แต่ เอริก ลาเมล่า ที่ลงแทนก็ไม่มมีอะไรพิเศษกว่า ไม่ถึงกับฉุดเกมให้ดีขึ้นชัดเจน
กองหลังขาด โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ต้องถอย เอริค ดายเออร์ มาเล่นเซ็นเตอร์ก็ขาดความเร็ว เจอกับทีมที่ปรู๊ปปร๊าดออกบอลไว เพรสซิ่งไวอย่างแมนฯ ซิตี้ สเปอร์สมีหวังหัวหมุนแน่นอน
ผมชอบการทำทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือทีมตราไก่ที่เน้นทีมเวิร์กยอดเยี่ยม นักเตะก็รู้จักสร้างดาวรุ่งขึ้นมาเสริมชุดใหญ่เรื่อยๆ ไม่ได้ใช้เงินซื้อความสำเร็จลูกเดียว
แต่สเปอร์สตอนนี้ เป็นแค่ทีมระดับลุ้นท็อปโฟร์ มาตรฐานยังห่างจากแมนฯ ซิตี้ อยู่พอสมควร
ถ้าไม่มีปาฏิหารย์ช่วย ซิตี้เชือดไก่ตายแน่!
